นวัตกรรมประชาธิปไตย

พัฒนาคุณภาพสังคมไทย

 

          ประชาธิปไตยเรื่องที่มีส่วนสำคัญต่อการผลักดันและพัฒนาประเทศ เรื่องสำคัญที่ทั่วโลกต่างนำมาถอดบทเรียนเพื่อนำไปใช้กับประเทศของตัวเองอยู่เป็นประจำ แต่ในบางประเทศก็ควรจะมีรูปแบบประชาธิปไตยที่เป็นของเราเอง เพราะ บ้านเราเราก็ต้องจัดบ้านตามแบบที่เราอยู่แล้วมีความสุขที่สุด อย่างน้อยเมื่อมีความสุขที่สุดแล้ว คุณภาพชีวิตที่ดีก็จะตามมา

 

นวัตกรรมประชาธิปไตย

          เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันพระปกเกล้า ได้จัดการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 12 ประจำปี 2553 เรื่อง คุณภาพสังคมกับคุณภาพประชาธิปไตยไทย” : social quality and quality of thai democracy ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ และมีการจัดการประชุมกลุ่มย่อยต่างๆ เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้สอดร้บกับสังคม

 

          นวัตกรรมประชาธิปไตยเพื่อคุณภาพสังคมไทย  เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีการพูดถึงในห้องประชุมกลุ่มย่อย โดย นายชัชวาล ทองดีเลิศ ประธานสถาบันการจัดการทางสังคม โรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา ได้เปิดประเด็นเรื่องของประชาธิปไตยในชุมชนเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า ปัญหาที่พบวนเวียนในชุมชนมาเกือบ 30 ปี คือ เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใด ส่งผลให้ชุมชนเกิดความแตกแยกในทุกครั้ง เพราะความที่มีหลายพรรคการเมือง ผู้ชนะก็ทำงานไป ผู้แพ้ก็เป็นฝ่ายโจมตีการทำงาน ซึ่งอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์จากนักการเมืองหรือนายทุน ดังนั้น ประชาชนมีส่วนร่วมเพียงแค่การลงคะแนน ซึ่งปัจจุบันนี้สถานการณ์สังคมไทยยังคงมีประชาธิปไตยที่เป็นเพียงรูปแบบ ประเด็นที่ท้องถิ่นบอกว่าเรารวมศูนย์อำนาจอยู่ตรงกลาง แต่ขณะเดียวกันกลับขาดการมีส่วนร่วม ขาดความเข้มแข็ง และอำนาจเงินยังมีมหาศาล ดังนั้น ส่วนที่อ่อนแอที่สุดในสังคมคือศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเรื่องสุดท้ายที่นักการเมืองจะคิดถึง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้สังคมอ่อนแอ แต่กลับทำให้การเมืองมีความเข้มแข็ง

 

           ผมมองว่าชุมชนเป็นรากฐานสำคัญของไทย ซึ่งเมืองไทยเรามีชุมชนที่หลากหลาย ไม่ต่ำกว่า 50 ชาติพันธุ์ แต่เวลาพัฒนาเราพัฒนาจากบนลงล่าง เป็นการรับแต่ความคิดสมัยใหม่ โดยไม่คิดถึงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นว่าพวกเขาจะอยู่อย่างไร เป็นเรื่องที่คุยกันน้อยมากใน ครม., ส.ส., ส.ว.นายชัชวาลกล่าวและว่า ปัจจัยสำคัญคือทำให้เกิดประชาธิปไตยชุมชน มีการนำพลังทุนทางสังคมมาขับเคลื่อน การจัดตั้งสภาผู้นำในท้องถิ่นต้องเป็นผู้ที่มีหัวใจสาธารณะ ไม่อยู่ภายใต้การเมืองหรือนายทุน  เพื่อให้เกิดกระบวนการกระจายทรัพยากรอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 

 

          ด้าน นางสาวเพ็ญภัค รัตนคำฟู นายกเทศมนตรีตำบลเกาะคา จังหวัดลำปาง ก็ได้ยกตัวอย่างการบริหารจัดการในพื้นที่เทศบาลตำบลเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปางมาถ่ายทอดแนวคิดให้ฟังว่า เป้าหมายของการพัฒนาเทศบาลตำบลเกาะคา คือการสร้างเมืองเกาะคาให้เป็นเมืองน่าอยู่ ซึ่งปัจจุบันนี้เทศบาลตำบลเกาะคาเองได้เป็นต้นแบบตำบลสุขภาวะ ที่นำเสนอเรื่องการทำงานของชุมชน ที่มีสุขภาวะทั้งทางกาย ใจ สังคมและปัญญา ซึ่งไปสอดรับกับนวัตกรรมประชาธิปไตยเพื่อคุณภาพสังคมไทย ตรงที่ว่าฐานคิดที่สำคัญของนวัตกรรมประชาธิปไตยฯ คือการสร้างการเมืองภาคประชาสังคม และการสร้างการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วม โดยต้องทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมคิดและตัดสินใจในการพัฒนาพื้นที่ ต้องมีเวทีแสดงออกทางความคิดเห็น หลังจากนั้นทางเทศบาลเองจะแปลงความคิดของชุมชนไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งก็จะช่วยสร้างให้ชุมชนเกิดความภาคภูมิใจและมีความรู้สึกเป็นเจ้าของมากขึ้น

นวัตกรรมประชาธิปไตย

 

          เวทีการแสดงออกทางความคิด เชื่อว่าหลายพื้นที่เองก็คงจะมีให้เห็นกันอยู่ประจำ อย่างที่เกาะคา มีเวทีที่เป็นจุดศูนย์กลางในการเปิดรับฟังความคิดของประชาชน โดยเรียกว่า ข่วงผญ๋า เพื่อฮอมกำกึ๊ด โดยนายกเทศมนตรีตำบลเกาะคา ได้แปลงภาษาเหนือให้ฟังว่า  ข่วงผญ๋า เป็นภาษาเหนือ ข่วง แปลว่า ลาน ผญา คือปัญญา ข่วงผญ๋า คือ ลานแห่งปัญญา เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของคนในสังคมร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการเปิดพื้นที่ที่สร้างสรรค์ และถือเป็นกลไกสำคัญมากในการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน

 

           นวัตกรรมฯ ที่นำไปสู่การพัฒนาสังคมไทย สิ่งสำคัญคือการสร้างการเมืองภาคประชาสังคม ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองตั้งแต่ระดับรากฐาน คือ การเมืองท้องถิ่น ซึ่งการเมืองท้องถิ่นที่เข้มแข็ง จะนำไปสู่การเมืองระดับประเทศที่เข้มแข็งและนำไปสู่ประเทศไทยที่เข้มแข็งต่อไป เพราะต้องอย่าลืมว่าปัจจุบัน ระบบอุปถัมภ์หรือวงจรอุบาทว์ แนวคิดเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงยังเกิดขึ้นในสังคมมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะความอ่อนแอของระบบการเมือง การที่จะทำการเมืองให้เข้มแข็งได้นั้น เราต้องสร้างการเมืองภาคพลเมืองให้เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีความเป็นเจ้าของ ซึ่งตรงนี้คงต้องใช้เวลาแต่อย่างน้อยนี่คือจุดเริ่มต้น นางสาวเพ็ญภัค กล่าว

 

          นอกจากนี้ในงานยังมีการจัดนิทรรศการความรู้เรื่องประชาธิปไตยและการดำเนินงานของประชาธิปไตยชุมชนในแต่ละพื้นที่ อาทิ โครงการพัฒนาทักษะด้านการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพให้แก่บุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบล ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมี นายสุรพล เหลี่ยมสูงเนิน เป็นหัวหน้าโครงการ โดยมีเป้าหมายการบริหารโครงการสู่การทำงานในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินการโครงการด้านสุขภาะในระดับท้องถิ่น โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 ปี 2551-2552 และระยะที่ 2 ปี 2553-2554 เน้นกลุ่มป้าหมาย อบต.ขนาดเล็กและขนาดกลาง และไม่ใช่ อบต.ต้นแบบ โดยมีรูปแบบในการพัฒนาทักษะโดยการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โดยระหว่างทางที่มีพี่เลี้ยงให้คำแนะนำเป็นที่ปรึกษาทั้งในห้องเรียนและในพื้นที่ เน้นการทดลองปฏิบัติการจริงมากกว่าการฟังบรรยาย

 

          ซึ่งในวันงาน นายสุรศักดิ์ สิงห์หาร ปลัดเทศบาลตำบลเมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้ยกตัวอย่างการดำเนินการในพื้นที่ โดยเน้นหนักไปที่เรื่องของการแก้ปัญหาเยาวชนในพื้นที่ให้ฟังว่า ปัญหาที่พบมากในพื้นที่คือเรื่องของเยาวชน ซึ่งการพัฒนาทักษะการบริหารงานสร้างสุขภาพในพื้นที่ จึงเน้นไปที่เรื่องเยาวชนเป็นหลัก โดยพยายามสร้างการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ให้ร่วมคิดแก้ไขปัญหาที่เกิดกับเยาวชน ซึ่งส่วนใหญ่จะพบเรื่องของการหนีเรียน การติดสุรา ซึ่งถือเป็นปัญหาระดับต้นๆ เพราะหากแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ การทะเลาะวิวาท ก็จะเป็นส่วนช่วยลดความขัดแย้งในพื้นที่ได้อีกด้วย

 

           ในกระบวนการงานของ  สสส. ปัญหาที่เราหยิบมาทำ คือ เรื่องทะเลาะวิวาทของเด็กและเยาวชนมาทำ แต่เรากลับเห็นปัญหาอื่นด้วย และเราก็หวังว่ามันน่าจะเกิดขึ้นอีกหลายกลุ่มที่ขยายผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งได้รับความร่วมมือทั้งครูอาจารย์และเด็กๆ โดยเราขอความร่วมมืออาจารย์ให้เป็นพี่เลี้ยงแก่เด็กๆ ในการคิดทำเรื่องต่างๆ ที่สำคัญคือการคืนข้อมูล คือการให้ชาวบ้านได้รับรู้ถึงปัญหาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อชาวบ้านรู้ปัญหา พวกเขาก็จะร่วมแก้ปัญหา เป็นเรื่องของชุมชนคิดเองประกอบกับภาคีเครือข่ายทั้งหมดที่มีความเข็มแข็งก็ให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง การแก้ปัญหาก็บรรลุผลปลัดเทศบาลตำบลเมืองแกกล่าว

 

          นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่แม้ว่าในพื้นที่จะประสบปัญหาน้ำท่วม ไม่สามารถเดินทางมาร่วมพูดคุยได้ แต่ก็ยังจัดทำบอร์ดนิทรรศการที่เป็นประโยชน์มาถ่ายทอดให้แก่ผู้เข้าร่วมงานได้รับชม

 

          โดยที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นการดำเนินโครงการสร้างสุขภาวะด้วยการเรียนรู้เพื่อขยายผลสู่ตำบลเครือข่าย โดยมี นายโสภณ พรหมแก้ว นายก อบต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้วิจัย ภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนาตำบลสุขภาวะ (4×4) พัฒนาระบบการจัดการตำบลสู่สุขภาวะ 8 ระบบหลัก ประกอบด้วย 1.ระบบการเกษตรเพื่อสุขภาวะ 2.ระบบเศรษฐกิจพอเพียง 3.ระบบการดูแลสุขภาพและอาสาสมัคร 4.ระบบองค์กรการเงินและสวัสดิการเพื่อการพัฒนาตำบลสุขภาวะ 5.ระบบการมีส่วนร่วม 6.ระบบการจัดการข้อมูลและสื่อสาร 7.ระบบการศึกษาและการเรียนรู้เพื่อชีวิต และ 8.ระบบการบริหารท้องถิ่น เป็นระบบขับเคลื่อน

 

          วันนี้….คุณภาพสังคมกับคุณภาพประชาธิปไตยจะพัฒนาไปในทิศทางไหน คำตอบคงไม่ได้อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่คำตอบอยู่ที่ทุกคนในประเทศ ที่เรียกตัวเองว่า ประเทศที่มีการปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย

 

 

 

 

 

 

ที่มา : สุนันทา สุขสุมิตร team content www.thaihealth.or.th

 

 

 

 

update : 15-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย :  สุนันทา สุขสุมิตร

 

Shares:
QR Code :
QR Code