ถอดความสำเร็จ “ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค” สู่ความยั่งยืนในอนาคต
ชื่อเรื่อง ถอดความสำเร็จ “ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค” สู่ความยั่งยืนในอนาคต
เรื่องโดย อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจาก พีธี MOU ยกระดับต้นแบบ “ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค” ระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) และศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค 18 แห่ง
ภาพโดย ฐิติชญา สัมปุรณะพันธุ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
การทำให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะที่ถูกต้อง มีทักษะชีวิตที่รู้เท่าทัน ด้วยการจุดประกายและความคิด ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้รับรู้ถึงบริการข้อมูลข่าวสารผ่านรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจ สามารถเลือกสิ่งที่ดีให้แก่ตนเองและแบ่งปันไปยังคนรอบข้าง เป็นส่วนสำคัญในร่วมสร้างสุขภาวในสังคมไทยที่ยั่งยืน
“ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค” จำนวน 18 แห่งทั่วไทย ภายใต้ความร่วมมือจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และพันธมิตรเครือข่ายพื้นที่เรียนรู้ กำลังทำหน้าที่เป็นแหล่งส่งเสริมการเรียนรู้ ส่งต่อองค์ความรู้ด้านสุขภาวะที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการปรับทัศนคติ สู่การเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน ดังกล่าวข้างไว้ต้น
ความจริงแล้ว สสส. เริ่มพัฒนา “ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค” มาตั้งแต่ ปี 2558 ถือเป็นนวัตกรรมการเรียนรู้และส่งเสริมแนวทางการใช้ชีวิตที่มีสุขภาวะให้กับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ
หลังจากดำเนินงานมากกว่า 8 ปี ผ่านมาถึงปี 2566 ปัจจุบันมีศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาคทั้งสิ้น 18 แห่ง ครอบคลุม 13 เขตบริการสุขภาพ ที่ร่วมขยายผลองค์ความรู้สุขภาวะผ่านกลไกการทำงานร่วมกับหน่วยงาน/เครือข่ายในระดับพื้นที่ และมีการพัฒนา ต่อยอดองค์ความรู้ด้วยรูปแบบที่เหมาะสมกับบริบทของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ โดยมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 7,000,000 คน มีความรอบรู้ด้านสุขภาพมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนวัตกรรมสื่อเรียนรู้เพื่อสุขภาวะเกิดขึ้นมากมาย และนำไปสู่การขยายผลองค์ความรู้สุขภาวะในพื้นที่
หากจะบอกว่า สุขภาพที่ดีของประชาชน สามารถเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จในการสร้างสังคมสุขภาวะของประเทศ ก็คงจะไม่ผิด และที่น่าทึ่ง คือ เกิดผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) หรือนักสร้างเสริมการเรียนรู้ด้านสุขภาวะกว่า 3,000 คน
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันสุขภาพของคนในสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลายคนเริ่มหันมาดูแลตัวเอง เลือกกินอาหารสุขภาพ ลดหวานมันเค็ม และออกกำลังกายกันมากขึ้น ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อลดความเสี่ยงโรคในอนาคต
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในวันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค” ว่า สสส. มุ่งขยายผลแหล่งส่งเสริมการเรียนรู้ ส่งต่อองค์ความรู้ด้านสุขภาวะที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการปรับทัศนคติ สู่การเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน โดยสานพลังหน่วยงานพันธมิตรแหล่งเรียนรู้ 18 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย
ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ที่ตั้งอยู่ใน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 13 แห่ง อปท. 4 แห่ง โรงพยาบาล 1 แห่ง เน้นขยายผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างโอกาสใหม่ในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขยายฐานผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายที่มีการยกระดับเชิงนโยบาย เกิดเป็นกลไกทวีคูณ ที่เข้าถึงในระดับพื้นที่ ชุมชน มุ่งให้ประชาชนมีความรอบรู้ทางสุขภาพตามวิถีชีวิตของตนเอง นำไปสู่การสร้างสังคมสุขภาวะ ดร.สุปรีดา กล่าว
ภายในงานนี้ยังมีบูธกิจกรรม ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ศึกษากัน นั่นก็คือ นวัตกรรม “นิทรรศการเคลื่อนที่” เครื่องมือสื่อสารสุข(ภาวะ) 4 มิติ ได้แก่ รัก(เรา)ไร้ควัน เหล้าอยากเล่า Sex วัยรุ่นเลือกได้ และ Food & Fit สร้างชีวิตให้ Strong เป็นสื่อการเรียนรู้ที่จะสามารถช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดเสี่ยงของคนในสังคม
ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อสุขภาพเป็นเรื่องใกล้ตัว สสส. ได้เปิดตัว Application “สุขภาพดีเริ่มต้นได้ที่นี่ Persona health สื่อเฉพาะคุณ สุขภาพดีขึ้นได้แค่ปลายนิ้ว” ซึ่งเป็น App คลังความรู้สุขภาพ ตอบโจทย์การดูแลตัวเองในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น การจับคู่ด้านสุขภาพทุกมิติที่ช่วยประเมินพฤติกรรมความเสี่ยง ที่สามารถส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องให้กับคนที่เรารักหรือผู้อื่นได้ รวมทั้งยังมีกิจกรรมท้าทายดี ๆ ให้สะสม Point เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่คนทุกเพศทุกวัยในการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมและสนุกกับแลกรับรางวัล
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 02-343-1500 หรือ เว็บไซต์ https://resourcecenter.thaihealth.or.th/ หรือ www.facebook.com/thaihealthcenter.org
หมายเหต : ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค 18 แห่งทั่วประเทศ ตั้งอยู่ในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 13 แห่ง อปท. 4 แห่ง และ โรงพยาบาล 1 แห่งมีดังนี้
ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 13 แห่ง ประกอบด้วย 1.ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาลำปาง 2. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครสวรรค์ 3 ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษากาญจนบุรี 4. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครพนม 5. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว 6. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต 7. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา 8. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสมุทรสาคร 9. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาอุบลราชธานี 10. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษายะลา 11. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานราธิวาส 12.. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพิษณุโลก 13. ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด
อปท. 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ณ ศูนย์การเรียนรู้เมืองฉะเชิงเทรา 2. อุทยานการเรียนรู้ยะลา 3. ห้องสมุดประชาชนเทศบาลนครอุดรธานี 4. อุทยานการเรียนรู้นครภูเก็ต
และ โรงพยาบาล 1 แห่ง ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ณ โรงพยาบาลน่าน
สุขภาวะของคนไทย เป็นพันธกิจหลักที่ สสส. ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้สังคมสุขภาวะที่ดี และหวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย หน่วยงานทุกภาคส่วน มาร่วมกันทำภารกิจสร้างเสริมสุขภาพ นำไปสู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะที่ยั่งยืน