“ตั๊กแตน ชลดา” เคยสูญเสียจึงเข้าใจภัยบุหรี่ เตือนเยาวชนห่างไกลบุหรี่ไฟฟ้า ความเท่ห์สร้างได้ด้วยตัวเอง
เพราะมีประสบการณ์ตรงจากภัยของบุหรี่ทุกชนิด จนกลายเป็นเรื่องที่ทำให้นักร้องลูกทุ่งอย่าง ‘ตั๊กแตน ชลดา’ กล้าที่จะแชร์ กล้าที่จะบอกต่อถึงความอันตรายและผลกระทบที่ได้เจอ โดยบุหรี่ไม่เคยมีประโยชน์ มีแต่โทษที่ทำลายสุขภาพทั้งผู้สูบและคนรอบข้าง เรื่องในสังคมที่ผ่านการรณรงค์มามากมาย และเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ‘ตั๊กแตน ชลดา’ ขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงถ่ายทอดเรื่องราวที่เจอเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติถึงภัยจากบุหรี่
- ชีวิตนักร้องที่ไร้เสียงจากควันบุหรี่ไฟฟ้า
เบื้องหน้าบนเวทีที่คอยสร้างสีสัน ความสนุกผ่านการร้องเพลง และโชว์ต่าง ๆ แต่บางครั้งก็ต้องทนกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้จากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของผู้ชม ซึ่งคนสูบไม่คาดคิดว่าควันบุหรี่มือสองที่พ่นออกมา จะไปสร้างผลกระทบให้กับนักร้องที่ต้องใช้เสียงในการร้องเพลง เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตั๊กแตนบอกต้องรีบเอาตัวรอด หนีจากควันให้ไกลและต้องไม่กระทบกับการทำงาน
“ด้วยความที่เป็นเราคนแพ้ควัน และการทำงานของเราต้องใช้เสียง เมื่อเวลาที่สูดอากาศเข้าไปและมีควันบุหรี่เข้าไปด้วย ปฏิกิริยากับบุหรี่จะมาทันที ถ้าได้รับควันปุ๊บจะรู้ถึงความผิดปกติทั้ง แสบคอ ระคายคอ ไอแห้ง และไปจนถึงทำให้เสียงเปลี่ยนทันที เมื่อเลี่ยงสิ่งที่ต้องเจอไม่ได้ ทั้งที่ต้องร้องเพลงบนเวที จะพยายามแก้สถานการณ์ด้วยการเดินไปมุมอื่นที่ห่างจากควัน จนกว่าจะแน่ใจว่าพื้นที่ตรงนั้นปลอดภัยขึ้นถึงจะเดินกลับมา”
- สูญเสียจึงเข้าใจ อย่าคิดได้ในวันที่สายเกินแก้
ในการทำงานที่บางครั้งต้องเจอควันบุหรี่มือสองอย่างไม่ทันคาดคิด ในชีวิตส่วนตัวก็เคยเรื่องราวสุดสะเทือนใจสูญเสียพี่ชายแท้ ๆ ด้วยผลของบุหรี่จนเป็นโรคมะเร็งปอด ในวัยเพียง 40 ปี ตอกย้ำได้ว่าการสูบบุหรี่ที่ค่อย ๆ ทำลายสุขภาพ จนพรากชีวิตคนรักอย่างไม่มีวันกลับมา
“เราสูญเสียพี่ชายแท้ ๆ จากโรคมะเร็งปอด และมองว่าการสูบบุหรี่ก็เหมือนสารเสพติด ที่ติดแล้วก็ทำลายสุขภาพไปวันละนิด ถือว่าเป็นบทเรียนที่ทำให้เราเสียใจมาก การสูญเสียคนที่รักอย่างไม่มีวันกลับ ต้นเหตุจากบุหรี่ที่พรากพี่ชายไปจากเรา รวมถึงยังมีหลาย ๆ ครอบครัวที่ต้องสูญเสียคนรักจากการสูบบุหรี่ เพราะเคยสูญเสียมาก่อน เลยอยากฝากว่าอย่าคิดได้ในวันที่สายเกินไป”
- หาเงินเพื่อสร้างชีวิตที่ดี ดีกว่าใช้รักษาสุขภาพ
จากประสบการณ์ทำงานที่เคยเจอควันบุหรี่มือสอง และการสูญเสียพี่ชายด้วยผลของการสูบบุหรี่ ทำให้ตั๊กแตน เข้าใจและมองเห็นภาพมากขึ้นว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ อย่าขยันทำงาน หาเงิน สร้างรายได้ เพื่อไว้ใช้รักษาอาการป่วย แต่ควรเพื่อสร้างชีวิตที่ดีดีกว่า
“เราทำงานหาเงินมา ควรที่จะต้องมีชีวิตที่ดี มีร่างกายที่ดี ไม่ใช่หาเงินมาเพื่อใช้รักษาตัวเองในเวลาป่วย ด้วยผลที่เกิดจากการไม่ดูแลตัวเอง การสูบบุหรี่ที่เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้ เมื่อป่วยไม่เพียงแค่ตัวเองที่ต้องรักษา ต้องคอยหาหมอ แต่รวมถึงครอบครัวที่ต้องมาคอยดูแลอีกด้วย”
- ร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมรณรงค์เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด
‘ตั๊กแตน ชลดา’ ขอเป็นกระบอกเสียงเคียงข้างสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากบุหรี่และสิ่งเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เพื่อรณรงค์ให้เห็นถึงความรุนแรงของยาเสพติด และบุหรี่ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีนิโคตินในบุหรี่นับว่าเป็นสิ่งที่เป็นภัยต่อร่างกาย เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีวันหน้า
“ขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงร่วมรณรงค์งดสูบบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ทุกชนิด เมื่อมีการเริ่มต้นสูบ และสูบไปเรื่อย ๆ จะทำให้ติดบุหรี่ซึ่งไม่ดีต่อร่างกาย ขอวอนให้ทุกคนร่วมมือ ร่วมกันรณรงค์ ลดและงดสูบบุหรี่ สำหรับผู้ที่เพิ่งหันมาสูบขอให้เปลี่ยนใจ ส่วนผู้ที่สูบมาเป็นเวลานานแล้ว ขอให้พยายามเลิกได้สำเร็จ อย่างน้อยเพื่อตัวเอง หรือสูบให้ห่างจากพื้นที่ที่มีคนอยู่”
- เยาวชนของชาติ ต้องรู้ให้ทันบุหรี่ไฟฟ้า
ควันบุหรี่มือสองที่เจอกับตัวทำให้ตั๊กแตนมองว่าบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนระเบิด พร้อมบอกอย่ามองบุหรี่ไฟฟ้าแค่ตาเปล่า เพราะโทษจากหนักมากจริง ๆ ไม่เพียงแค่ผู้ใหญ่ที่ควรรู้ถึงภัยของบุหรี่ทุกชนิด แต่ในปัจจุบันที่บุหรี่ไฟฟ้าเข้าถึงเด็กและเยาวชนได้ง่ายขึ้น ซึ่งตั๊กแตนฝากถึงผู้ปกครองควรดูแลลูก – หลาน อย่างใกล้ชิด ด้วยปัจจุบันเด็กอาจรู้ไม่เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า
“ตอนนี้บุหรี่ไฟฟ้าเข้าถึงเด็กได้ง่ายขึ้น อยากฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแล และให้ความรู้กับลูก – หลาน ถึงภัยของบุหรี่ไฟฟ้าและหลีกเลี่ยงบุหรี่ทุกชนิด บางครั้งเด็กอาจจะไม่รู้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร เมื่อเด็กได้กลิ่นหอม ๆ อาจจะคิดว่าเป็นของเล่น เป็นขนม แต่จริง ๆ แล้วเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมาก อยากฝากถึงน้อง ๆ ว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่เท่ห์ สิ่งที่เท่ห์ คือ ต้องรักตัวเอง รักครอบครัว และให้เกียรติคนอื่น เป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่า”
โดยตั๊กแตนทิ้งท้ายว่า เราอยู่ในโลกและอยู่ในสังคมเดียวกัน ถ้าเกิดการร่วมมือกันจะทำให้ทุกอย่างสำเร็จได้ เพราะบุหรี่ทุกชนิดไม่ได้มีผลกระทบแค่ตัวเอง แต่มีผลกระทบกับคนรอบข้าง เราจึงต้องเราต้องช่วยกันและช่วยดูแลเยาวชนไทยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า