ตั้งศูนย์วัคซีนไข้เลือดออกแห่งแรกในอาเซียน

 

“วรวัจน์” สั่งทุ่มงบประมาณ 60 ล้านบาท จัดตั้งห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก ให้ได้มาตรฐานสากลแห่งแรกของอาเซียน รองรับการพัฒนาวัคซีน หวังไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีน รับประชากรกลุ่มเสี่ยงทั่วโลก

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ไข้เลือดออกถือเป็นโรคระบาดที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยมานาน แม้จะมีการพัฒนาวัคซีนมาตลอด 20 ปี แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนใดพัฒนาสำเร็จในห้องปฏิบัติการและทำการทดลองทางคลินิกเพื่อสู่ขั้นตอนการผลิตระดับอุตสาหกรรม

เนื่องจากยังขาดงบประมาณสนับสนุนอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง เพื่อให้ได้โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น จึงทำให้การแพร่ระบาดขยายวงกว้างไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก วท.จึงมอบหมายให้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (tcels) ดำเนินโครงการจัดตั้งห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ได้มาตรฐานสากลแห่งแรกของอาเซียน เพื่อรองรับการพัฒนาวัคซีน และหากการพัฒนาสำเร็จประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนรองรับประชากรที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั่วโลก

นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออก จำเป็นต้องบูรณาการงานวิจัยและพัฒนาหลายหน่วยงาน โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดวาระแห่งชาติด้านวัคซีน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีได้พัฒนาโรงงานผลิตระดับกึ่งอุตสาหกรรม และ tcels ดำเนินการจัดตั้งห้องปฏิบัติการฯ

ทั้งนี้เพราะวัคซีนมีความสำคัญต่อการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนและความมั่นคงของชาติ ประเทศไทยจึงควรสร้างหลักประกันว่าจะมีวัคซีนที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพอที่จะใช้ป้องกันโรคแก่ประชาชนทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยอยู่บนพื้นฐานของการพึ่งตนเองเพื่อการพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนของประเทศไทยในระยะยาว หากประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนได้เอง นอกจากจะลดการสูญเสียเงินตราออกนอกประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ยังมีโอกาสส่งออกวัคซีนที่มีศักยภาพจากการผลิตภายในประเทศ นำรายได้เข้าประเทศอีกทางหนึ่งด้วย

ด้านนายกำจร พลางกูร รองผู้อำนวยการ tcels กล่าวว่า ห้องปฏิบัติการทดสอบวัคซีน tcels ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลจัดตั้งขึ้น เพื่อรองรับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก โดยเริ่มจากการรองรับการทดสอบทางวิทยาศาสตร์อย่างสมบูรณ์เพื่อนำมาใช้ป้องกันโรคนี้ อีกทั้งยังสามารถรองรับการทดสอบวัคซีนชนิดอื่นๆ ได้ เช่น วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไป จะได้ส่งต่อให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พัฒนากระบวนการผลิตวัคซีนเพื่อการทดสอบในคนต่อไป โดยขั้นตอนดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 2 ปี ใช้งบประมาณในการดำเนินการ 60 ล้านบาท

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code