ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนฯ ยื่น 6 ข้อ แก้ปัญหาสุรา

 

 

ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนฯ ยื่น 6 ข้อ แก้ปัญหาสุรา เข้าที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ธ.ค.นี้ ฝากการบ้านรัฐบาลนำนโยบายสุราไปปฏิบัติให้จริง  อุตสาหกรรมเหล้าอย่าหัวใสเอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว  หยุดใช้กลเม็ดให้วัยรุ่นซดน้ำเมา  ขณะที่ ศูนย์วิจัยปัญหาสุราชี้ เหล้าไม่ใช่สินค้าธรรมดา แต่เป็นภัยสังคมสารพัดโทษ

 

            เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่โรงแรมเอเชีย ในการประชุมวิชาสุราระดับชาติครั้งที่ 5 ภายในหัวข้อ แผนยุทธศาสตร์เพื่อควบคุมปัญหาสุราระดับชาติจัดโดยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 10 องค์กร ซึ่งประกอบด้วย นักวิชาการ บุคลากรวิชาชีพสุขภาพ เครือข่ายประชาสังคม เยาวชน นักเรียนนิสิตนักศึกษากว่า 400 คนเข้าร่วมประชุม  โดยนายพิษณุ  ภูดวงดอก  ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์ รู้ทันแอลกอฮอล์ พร้อมด้วยนักเรียนโรงเรียนศึกษานารี จำนวน 50 คนยื่นข้อเรียกในที่ประชุมครั้งนี้ ผ่าน นายชัยภัทร หมื่นกิจ ตัวแทนจากสมาคมองค์กรส่วนตำบลแห่งประเทศไทย นพ.สมาน  ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค สธ. และนายวิสุทธิ  บุญญโสภิต   ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ โดยทั้ง 3 คน เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยระบุว่า จะนำข้อเสนอนี้เข้าสู่ที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้  โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

 

            นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผอ.ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า จากการจัดประชุมครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าสุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา แต่สามารถทำลายสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาการจัดการปัญหาสุราของไทยยังไม่สามารถควบคุมและลดขนาดและความรุนแรงลงได้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายด้าน คือ 1.ขาดทิศทางของนโยบาย 2.ไม่มีความครอบคลุมของนโยบาย 3.ขาดความเข้มแข็งในการนำนโยบายไปปฏิบัติ  4.ขาดมาตรการในระดับพื้นที่ การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ 5.ยังมีปัญหาในเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน

 

            นพ.ทักษพล กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมประชุมมีความกังวลต่อปัญหาการบริโภคสุราของคนไทย โดยมีข้อเรียกร้องเชิงนโยบายต่อร่างยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาดังนี้ 1.รัฐบาลและนักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ต้องสนับสนุนยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติและการนำไปปฏิบัติ โดยคำนึงถึงสุขภาพประชาชนมาก่อนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวมทั้งแสดงความจริงใจในการป้องกันและลดปัญหาจากสุรา ทำให้เกิดความโปร่งใส ลดอิทธิพลจากผลประโยชน์ทางธุรกิจ  2.คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเป็นกลไกหลักในการจัดการปัญหาสุราอย่างจริงจัง 3.ทุกหน่วยงานต้องมีส่วนร่วมพัฒนามาตรการระดับพื้นที่ชุมชนและหน่วยงาน และการสนับสนุนมาตรการระดับชาติ

 

            นพ.ทักษพล กล่าวว่า ข้อ 4.ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ ให้พิจารณาลดและจำกัดผลกระทบเชิงลบจากข้อตกลงการค้าที่มีต่อปัญหาสุรา 5.ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสุรา ทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ขาย ผู้โฆษณา ต้องคำนึงถึงผลกระทบจากสุรา ก่อนที่จะนึกถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจ รวมทั้งหยุดใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีเป้าหมายในกลุ่มเยาวชน และหยุดการแทรกแซงบ่อนทำลายความพยายามในการป้องกันและลดปัญหาสุราในสังคมไทยเพียงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจ และ6.ขอให้ทุกภาคส่วน ต้องเข้าใจ ตระหนัก ตื่นรู้ สร้างกลไกสนับสนุนการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องทั้งหมดนี้

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

 

 

 

Update 27-11-52

 

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด

Shares:
QR Code :
QR Code