ตลาดสดชวนงดเหล้า ทำความดีถวายในหลวง

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์



ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาการรณรงค์โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ไม่เพียงมีนักดื่มที่เข้าร่วมโครงการด้วยการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดช่วงเวลา 3 เดือนของการเข้าพรรษาเท่านั้น แต่ผลจากการงดดื่มที่ว่ายังส่งผลให้หลายคนเลิกดื่มอย่างถาวรด้วย


และเพื่อเป็นขยายขอบเขตการรณรงค์โครงการงดเหล้าเข้าพรรษาให้เข้าถึงกลุ่มคนทุกสาขาอาชีพมากขึ้น ในปีนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย เปิดโครงการรณรงค์ "ตลาดสดชวนงดเหล้าเข้าพรรษา รวมพลังทำความดีถวายในหลวง" อย่างเป็นทางการ


พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการทำงานร่วมกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อาทิ พ่อค้า แม่ค้า และประชาชน ที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาตลอดทั้ง 3 เดือน เป็นจุดเริ่มต้นทำความดี โดยเชื่อว่ายังมีชาวกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อยที่ต้องการงดเหล้าเข้าพรรษา


ด้าน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการงดเหล้าเข้าพรรษาเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 มีประชาชนเข้าร่วมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ข้อมูลจากเอแบคโพลล์ ปี 2553 มีคนไทยระบุว่าต้องการงดเหล้าช่วงเข้าพรรษา 55.1% แบ่งเป็นต้องการงดดื่มตลอด 3 เดือน 36.3% และต้องการงดดื่มเป็นบางช่วง 18.8% ประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงประมาณ 34,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552  สอดคล้องกับข้อมูลสำนักงานบัญชีประชาชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2553 ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยมีแนวโน้มลดลง อยู่ที่ 139,337 ล้านบาท ลดจากปีก่อนที่มีมูลค่า 154,998 ล้านบาท


"ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยที่เกิดจากการดื่มของมึนเมา และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ทั้งนี้ ในปีนี้เราตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้ร่วมงดดื่มตลอดช่วงเข้าพรรษา 3เดือน เพิ่มเป็น 50%ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2550 ระบุว่า ความชุกของผู้ที่ดื่มในอายุ 15 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 21.2% หรือ 1,217,808 ราย ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งต้องเน้นการรับรู้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนให้มีบทบาทสำคัญในการชวนเพื่อนเลิกเหล้า โดยปฏิญาณตนว่าจะงดเหล้าเข้าพรรษาและงดดื่มตลอดชีวิต"


การรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาในตลาดนำร่อง 17 แห่งในกรุงเทพฯ ครั้งนี้จึงเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ให้พ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยสามารถเข้าถึงเกิดการรับรู้ได้ง่าย นำไปสู่จุดเปลี่ยนของการลด ละ เลิกเหล้า 


"ขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมกันงดเหล้าเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน ละเว้นอบายมุข สิ่งมึนเมาที่ทำลายสุขภาพ โดยความดีครั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 2554 กิจกรรมในครั้งนี้ จะมีการตั้งจุดปฏิญาณตนงดเหล้าในตลาดสดนำร่อง 17 แห่ง ที่ถือเป็นตลาดสดระดับเพชร


และตั้งเป้าว่าภายในปีหน้าจะมีตลาดระดับทองเพิ่มขึ้น อีก 29 แห่ง ซึ่งผ่านเกณฑ์ตลาดสะอาดที่ได้มาตรฐาน ของสำนักอนามัย กทม.  นอกจากนี้ยังพร้อมส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบำบัดยาเสพติดฯ ลงพื้นที่ให้บริการตรวจคัดกรอง ผู้ที่มีแนวโน้มหรือเข้าข่ายติดสุรา และให้คำปรึกษาในการงดดื่มเหล้า และยังมีกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ ภายในตลาดสดอีกด้วย" รองผู้ว่าฯ กทม. ระบุ สำหรับรายชื่อตลาดที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ 1. ตลาดประชานิเวศน์ สังกัดสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร 2. ตลาดอ่อนนุช เขตวัฒนา 3. ตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน  4. ตลาดถนอมมิตร เขตบางเขน 5. ตลาดองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) เขตจตุจักร 6. ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี เขตมีนบุรี 7. ตลาดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย 8. ตลาดสามย่าน เขตปทุมวัน 9. ตลาดใหม่ทุ่งครุ เขตทุ่งครุ 10. ตลาดเจริญพรผล เขตบางพลัด 11. ตลาดกลางแฮปปี้แลนด์ เขตบางกะปิ 12. ตลาดเอี่ยมสมบัติ เขตสวนหลวง 13. ตลาดเสรี มาร์เก็ต เขตประเวศ 14. ตลาดลานบุญ เขตลาดกระบัง 15. ตลาดสายเนตร เขตคันนายาว 16. ตลาดวัฒนานันท์ เขตดอนเมือง และ 17. ตลาดพิบูลย์วิทย์ เขตจอมทอง


 


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code