ช่วยด้วย!!ร้านเหล้าล้อมมหา’ลัย
นศ.วอนรัฐบาลกวดขัน
ในรอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ประเด็นปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ถูกตีแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง งานวิจัยของ ผศ.ดร.ภัทรภร พลพนาธรรม ให้ข้อมูลการสำรวจพื้นที่รอบมหาวิทยาลัย 15 แห่ง พบว่า มีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาเฉลี่ย 57 ร้าน
ในรัศมี 1 ตารางกิโลเมตรรอบมหาวิทยาลัย และยังพบว่า 1 ใน 4 ของหอพักนักศึกษา มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย และจากการทดลองซื้อของเครือข่ายนักศึกษาสื่อสารมวลชนรามคำแหงและเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์ รู้ทันแอลกอฮอล์ โดยให้เด็กอายุ 20 ปี ในชุดนักเรียนไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่าร้านค้า ร้อยละ 83.3 ที่ขายให้ และทั้งสองเครือข่ายได้สำรวจความคิดเห็นนักศึกษา 1,000 คน จาก 10 สถาบัน พบว่า ร้อยละ 77.5 เห็นว่า ร้านเหล้ารอบสถานศึกษา เพิ่มแรงจูงใจในการดื่ม และร้อยละ 75.9 เห็นด้วยหากมีมาตรการในการควบคุม
เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมาธิการการศึกษาวุฒิสภาได้จัดเวทีระดมสมองในหัวข้อ “จากร้านเหล้ารอบสถานศึกษาถึงปัญหาเหล้าปั่น มาตรการแก้ไขที่ยั่งยืน” โดยนายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการเป็นประธานในที่ประชุม โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 200 คน จาก 65 องค์กรทั้งจากภาครัฐและเอกชน
จากการประชุมมีข้อสรุปว่า ต้องการให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการควบคุมเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษา โดยคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ต้องเร่งพิจารณาโดยเร็วที่สุด และขอให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงการคลัง ที่เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตขายสุรา ให้ที่ตั้งห่างจากสถานศึกษาให้มากที่สุด และขอให้เพิ่มกระบวนการออกใบอนุญาตให้ยากขึ้น
นพ.ทักษพล ธรรมรังสี นักวิจัยจากสำนักงานพัฒนาสุขภาพระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลไว้ว่า จากผลงานวิจัยหัวข้อเยาวชนกับสุราปัญหาไม่รู้จบ มีข้อมูลหลายส่วนที่เปิดเผยแล้วอาจจะตกใจ ส่วนแรกคือสถานการณ์การดื่มและพฤติกรรมการดื่มสุราของเยาวชน อายุระหว่าง 15-24 ปี พบว่าเพิ่มมากขึ้น 21.9 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน ทั้งนี้เยาวชนที่อยู่ในช่วง ม.5 และ ปวช.ปีที่ 2 จะดื่มมากที่สุด
ข้อมูลที่น่าตกใจอีกเรื่องคือ เยาวชนผู้ชายจำนวน 40.4 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่าดื่มเหล้าจนเมาทุก 30 วัน นี่คือภาวะวิกฤติของเยาวชนไทย หากเทียบเป็นเบียร์แล้วพบว่าวัยรุ่นชายอายุ 12-19 ปี ดื่มเบียร์เฉลี่ยครั้งละ 3.8 ขวดใหญ่ รวมปีละ 367 ขวด
ขณะที่วัยรุ่นหญิงดื่มเบียร์เฉลี่ยครั้งละ 2 ขวดหรือปีละ 92 ขวดใหญ่ และหากเด็กได้เริ่มดื่มแล้วเขาก็จะดื่มอีกเป็นประจำ งานวิจัยยังพบว่าเยาวชน 33.7 เปอร์เซ็นต์ชอบดื่มในหอพัก รองลงมาคือร้านใกล้โรงเรียน งานเลี้ยงรื่นเริง งานโรงเรียน และผับบาร์ สำหรับการเข้าถึงสุราของเยาวชนไทยนั้นพบว่า 25.6 เปอร์เซ็นต์ได้สุรามาจากผู้อื่นที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และอีก 20.9 เปอร์เซ็นต์ได้มาโดยซื้อเอง ไม่มีการตรวจบัตร
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา กล่าวว่า ปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษา เป็นเรื่องที่รอช้าไม่ได้อีกแล้ว กรรมาธิการขอสนับสนุนให้มีการออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ฉบับโดยเร็วที่สุด คือการควบคุมเหล้าปั่นและควบคุมร้านเหล้ารอบสถานศึกษา โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ให้นายกรัฐมนตรีประกาศกำหนดตามคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และจะมีการยื่นกระทู้ถามสดคณะรัฐมนตรีในกรณีการจัดการปัญหานี้ว่า รัฐบาลจะมีแนวทางที่ชัดเจนอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้รับการบรรจุเป็นวาระเรียบร้อยแล้ว
“กรณีกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่ได้ถูกนำมาใช้จัดการกับต้นตอของปัญหาอย่างเต็มที่ คณะกรรมาธิการจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางและจะทำหนังสือไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกรมสรรพสามิต ให้เข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนที่เป็นปัญหาอื่นตนจะรวบรวมเป็นข้อๆ และนำยื่นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ช่วยกันหาทางแก้ไขต่อไป” นายสิริวัฒน์ สรุป
วันนี้คลื่นสังคมในปัญหาเหล้ากับเด็กๆ และเยาวชนได้เคลื่อนตัวมาถึงจุดสูงสุดแล้ว หวังว่าลูกหลานไทยจะได้รับข่าวดีจากคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ทำให้มาตรการควบคุมจัดการกับปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษามีผลบังคับใช้ในเร็ววัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมรอบๆ สถานศึกษามอบเป็นของขวัญให้กับเด็กและเยาวชน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
Update 04-12-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์