ชวนวัยรุ่นดื่มน้ำสุขภาพแทนน้ำเมา – เหล้าปั่น

จัดประกวดเครื่องดื่มแนวใหม่ไร้แอลกอฮอล์

 

 

 

          สสส. และเครือข่ายงดเหล้า ร่วมกับเดอะมอลล์และยูนิฟ ชวนเยาวชนไทยดื่มน้ำสุขภาพ หวังสร้างทางเลือกใหม่ของเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ โพลล์ชี้ น.ศ.ส่วนใหญ่เห็นด้วยห้ามร้านเหล้าใกล้สถานศึกษา ลดปัญหาสังคมได้จริง

 

          เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ศูนย์การค้าเอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  เครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับเดอะมอลล์และบริษัทยูนิ – เพรสซิเด้นท์ จัดกิจกรรมการประกวดการผสมเครื่องดื่มทางเลือกปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการเปิดพื้นที่สำหรับเยาวชนไทยในการสร้างค่านิยมใหม่ ให้หันมาดื่มเครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์ โดยมีนายมานิตย์ นพอมรบดี รมช.กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน

 

          นายมานิตย์ นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ความหนาแน่นของร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาในปัจจุบันมีมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่หอพัก อพาร์ตเมนต์ แมนชั่นที่มีนักศึกษาเช่าพัก ทำให้สะดวกในการซื้อเป็นอย่างมาก

 

          ทั้งนี้ยังมีรายงานเชิงคุณภาพหลายรายงานยืนยันว่า ร้านเหล้าปั่นรอบสถานศึกษาเป็นปากทางของการนำนักเรียนนักศึกษาไปสู่การเป็นนักดื่มหน้าใหม่มากขึ้น เนื่องจากรูปลักษณ์มีสีสันที่สวยงาม น่าลิ้มลอง อยากให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมรณรงค์มากขึ้น โดยหันมาดื่มเครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์หรือค็อกเทล

 

          “การจัดประกวดในวันนี้ ถือเป็นการคิดค้นและสร้างสรรค์เครื่องดื่ม นอกจากจะช่วยดับกระหายแล้วยังเป็นเครื่องดื่มทดแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกทางหนึ่งที่ดีสำหรับสุขภาพ ที่สำคัญเยาวชนจะได้มีโอกาสในการช่วยสร้างค่านิยมใหม่ และช่วยลดปัญหาของสังคมไทยร่วมกัน” นายมานิตย์กล่าว

 

          จากผลการดำเนินงานของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  พ.ศ. 2552 ได้มีมติเห็นชอบห้ามการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรูปแบบของการนำมาผสมในน้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือน้ำที่มีกลิ่นผลไม้ หรือสิ่งอื่นใดแล้วนำมาปั่นรวมกัน เช่น เหล้าปั่น ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่น และมีขายอย่างแพร่หลายตามร้านข้างถนนรอบๆ สถานศึกษา หรือรถเข็นตามตลาดนัด เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ซึ่งจะเสนอผ่านกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และเมื่อมีผลบังคับใช้ หากฝ่าฝืนลักลอบขายจะมีโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

          ด้านเภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา โดยได้มีการขยายผลในเยาวชนระดับอุดมศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นนักดื่มหน้าใหม่ และในขณะเดียวกัน เยาวชนเหล่านี้ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในสังคมในการพัฒนาให้เกิดเป็นเครือข่ายเพื่อรณรงค์และเกิดการตระหนักจนนำไปสู่การลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปได้

 

          การประกวดการผสมเครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เป็นการผสมเครื่องดื่มที่ช่วยดับกระหาย และที่สำคัญคือ เป็นเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติทดแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ โดยครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนเปิดพื้นที่ดีดี สำหรับเยาวชนให้เกิดการนำความคิดริเริ่มที่ดีสำหรับทางเลือกในการปฏิเสธเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และหันมาใส่ใจสุขภาพ

 

          ทั้งนี้ เภสัชกรสงกรานต์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการศึกษาจุดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาในเขต กทม.ปี 2552 พบว่าร้านเหล้าปั่นมีการกระจายตัวไปสู่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยในพื้นที่รัศมี 500 เมตรมากขึ้น ประมาณ 5.6 ร้านต่อหนึ่งมหาวิทยาลัย ซึ่งพบว่ามีร้อยละ 87 ตั้งอยู่ในรัศมี 200 เมตรรอบมหาวิทยาลัย

 

          ขณะที่การสำรวจทัศนคติของนักศึกษาต่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสถานศึกษา 10 มหาวิทยาลัยพบว่า ร้อยละ 75.9 เห็นด้วยกับการมีมาตรการห้ามร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ใกล้สถานศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว หากไม่มีการควบคุม ตลอดจนการใช้มาตรการที่เคร่งครัด จะทำให้มีนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

Update 07-08-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

 

 

 

อ่านเนื้อหาทั้งหมดในคอลัมน์คลิกที่นี่