ชง ครม.แก้ภาษีบุหรี่ เล็งคิดจากราคาขายปลีก

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังคาดว่าจะสามารถนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีบุหรี่ พ.ศ…ฉบับแก้ไข ต่อที่ประชุม ครม.ได้ในวันที่ 29 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนฐานในการคำนวณภาษี จากการคำนวณที่ต้องถือตามราคาหน้าโรงงาน (ซีไอเอฟ) เป็นราคาขายปลีกแทนนั้น จะส่งผลให้ราคาขายปลีกบุหรี่ในประเทศปรับขึ้น แต่จะไม่สูงมากนัก

โดยเป็นแนวทางการปรับฐานการคิดภาษีในประเทศให้ถูกต้อง เพราะจากข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับประเทศสมาชิกอาเซียน จะทำให้ไม่มีภาษีศุลกากรและราคาซีไอเอฟลดลงด้วย เจตนารมณ์ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ต้องการรณรงค์ให้คนลดการสูบบุหรี่ลง ดังนั้นควรที่จะปรับฐานราคาบุหรี่ให้สูง เพราะเป็นตัวทำลายสุขภาพ และแม้ว่าการปรับฐานการคิดภาษีสรรพสามิตบุหรี่นี้ จะทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นด้วย แต่ไม่มากนัก

นายมั่น กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์นั้น ในสัปดาห์หน้าจะประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวง การคลัง กระทรงพลังงาน ทั้งนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เพื่อสรุปโครงสร้างภาษีรถยนต์ที่จะประกาศใช้ใหม่ หลังจากที่ได้ข้อสรุปจากหน่วยงานต่างๆ แล้ว โดยกระทรวงการคลังยืนยันหลักการเดิมที่จะให้ผู้ประกอบการมีเวลาในการปรับตัว 3 ปี เพราะไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำนวนมากและเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ด้วย

“ทั้งนี้เรายังให้เวลาผู้ประกอบการ 3 ปี เพราะมองว่าหากผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มาก เราจะได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันหากขึ้นภาษีแรง และกระทบต่อการเอกชนผู้ส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ จะทำให้ประเทศอินโดนีเซียขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในการส่งออกแทน เราจึงอยากรักษาตรงนี้ไว้และอยากให้เอกชนปรับตัวด้านความปลอดภัยแทน” นายมั่น กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า กรมสรรพสามิตได้ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ยาสูบ โดยเปลี่ยนฐานในการคำนวณภาษี จากการคำนวณที่ต้องถือตามราคาไอซีเอฟเป็นราคาขายปลีกแทน และได้ออก พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ. 2509 ปรับเพิ่มเพดานอัตราภาษีจากเดิม ตามมูลค่า 80% หรือ 60 สตางค์ต่อปริมาณหนึ่งกรัม เป็นอัตราตามมูลค่า 90% หรือ 3 บาทต่อปริมาณหนึ่งกรัม ตามข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรม ที่ให้กรมสรรพสามิตเรียกเก็บภาษีบุหรี่ตามสภาพ ซึ่งส่งผลให้กระทรวงการคลังมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้จัดเก็บภาษียาสูบตามปริมาณหรือตามสภาพได้สูงขึ้นและปัจจุบันกำลังเสนอออกกฎกระทรวง เพื่อใช้บังคับต่อไป

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code