จมปลักหน้าจอคอมนานเสี่ยงปวดตามข้อ

แพทย์แนะปรับโต๊ะ-เก้าอี้ ติดแผ่นกรองแสง

 

 

วัยทำงาน-เด็ก ติดเกม เสี่ยงโรคหน้าจอคอมพิวเตอร์ แพทย์แนะปรับโต๊ะ-เก้าอี้ระดับ ติดแผ่นกรองแสง-พักสายตาเป็นระยะ ลดความเสี่ยง

 

จมปลักหน้าจอคอมนานเสี่ยงปวดตามข้อ

นพ.สมเกียรติ ศิริรัตนพฤกษ์ ผอ.สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ทางวิชาการพบว่า การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีโอกาสเคลื่อนไหวร่างกายน้อยทำให้เกิดอาการปวดตามหัวไหล่ คอ หลัง และปวดตา เสี่ยงต่อการเป็นโรคนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานอายุ 30-40 ปีขึ้นไป รวมทั้งพบในกลุ่มเด็กที่ติดเล่นเกมคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานเกินไป แม้ว่าเด็กจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากโครงสร้างร่างกายยังแข็งแรง ไม่เสื่อม แต่ถ้าป้องกันตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงได้

 

นพ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานต้องรับแสงจ้ามากจะทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีปัญหาสายตา ปวดตา และตาแห้ง รวมทั้งการออกแบบท่านั่งที่ผิด ในส่วนของโต๊ะคอมพิวเตอร์กับเก้าอี้นั่งไม่ควรอยู่สูงหรือเตี้ยในระดับที่ต่างกันจนเกินไป เพราะท่านั่งที่ไม่ถูกต้องมีผลต่อกล้ามเนื้อ เมื่อนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อาจปวดข้อต่างๆ ปวดกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นอักเสบได้

จมปลักหน้าจอคอมนานเสี่ยงปวดตามข้อ

 

“ยังไม่ได้มีรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่เท่าที่ได้มีข่าวรายงานเข้ามาว่ามีผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวกับการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ มากขึ้น ไม่ใช่แค่วัยทำงาน เด็กที่เล่นเกมคอมพิวเตอร์มากๆ ถ้านั่งไม่ถูกต้อง ก็จะมีอาการได้”

 

นพ.สมเกียรติ แนะนำวิธีการใช้คอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องว่า 1.ควรเริ่มจากการออกแบบโต๊ะวางจอคอมพิวเตอร์ และเก้าอี้นั่งที่มีระดับที่เหมาะสมกับรูปร่างของผู้ใช้งานแต่ละบุคคล ไม่ควรให้โต๊ะและเก้าอี้สูงหรือเตี้ยกว่ากันจนเกินไป 2.ใช้แผ่นกรองแสงติดหน้าจอเพื่อลดแสงจ้าที่เข้าสู่สายตาได้โดยตรง และ 3.พักเป็นระยะๆ คือ ควรนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำงานติดต่อกันประมาณ 40-50 นาที แล้วหยุดพัก 10-20 นาที แล้วจึงกลับมาทำงานต่อ ซึ่งระหว่างการหยุดพักควรหลับตา หรือมองออกไปในที่ที่มีต้นไม้หรือที่ไกลๆ เพื่อพักสายตา และเปลี่ยนอิริยาบถเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม อาการปวดจากที่เกิดจากการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ถ้าไม่ปรับปรุงวิธีการนั่งทำงานหรือแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ มีโอกาสที่จะกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งต้องใช้การรักษาที่ยุ่งยากมากขึ้นต่อไป

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

update: 25-01-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code