“ความรู้-สามัคคี-การสร้างเครือข่าย” เป็นกุญแจขับเคลื่อนพลังพลเมืองสู่การอภิวัฒน์ประเทศไทยอย่างยั่งยืน
“หมอประเวศ” เห็นพ้อง “สมคิด” 3 แนวทางหลัก “ความรู้-สามัคคี-การสร้างเครือข่าย” เป็นกุญแจขับเคลื่อนพลังพลเมืองสู่การอภิวัฒน์ประเทศไทยอย่างยั่งยืน
วันที่ 3 มีนาคม ที่ศูนย์นิทรรศการไบเทค บางนา ได้มีเวทีฟื้นพลังชุมชนท้องถิ่นสู่การอภิวัฒน์ประเทศไทย ครั้งที่ 3 ประจำปี 2556 ภายใต้แนวคิด “สร้างการเรียนรู้ให้เป็นเครื่องมือสร้างพลเมือง สร้างพลเมืองเพื่อการพัฒนาสุขภาวะที่ยั่งยืน” โดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกว่า 1,500 ตำบลเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ โดยมีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน จัดงานครั้งนี้ขึ้น
โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงโอกาสขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสร้างพลเมือง ว่า ความหมายของคำว่า “พลเมือง” ต่างจากการเป็นประชาชน เพราะประชาชนในปัจจุบันยังฝากความหวังไว้ที่คนอื่น ในขณะที่พลเมือง สามารถทำได้ทุกอย่าง เพราะมีความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสังคม ครอบครัว หรือหน่วยงานต่างๆ ส่วนเป้าหมายที่จะทำให้สิ่งที่พลเมืองทำนั้นประสบความสำเร็จ มีปัจจัย 3 อย่าง อย่างแรกคือ ความสามารถ เราต้องกล้าประเมินตนเองในฐานะผู้นำท้องถิ่นว่า มีความสามารถเพียงพอต่อการพัฒนาชุมชนหรือไม่ ถ้ายัง ก็ควรต้องเรียนรู้และศึกษาเพิ่มเติม เพราะการเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย 2.การสร้างเครือข่าย ถ้าคุณสร้างเครือข่ายได้มากเท่าไร คุณจะยิ่งมีพลังในการทำงานส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
“และ 3.ยุทธศาสตร์การรวมเข้าไว้ด้วยกัน เริ่มต้นที่ชุมชนเข้มแข็ง พร้อมทั้งสร้างความตระหนักให้ประชาชนเรียนรู้จักที่จะบริหารจัดการ ช่วยกันสร้างผู้นำให้อนาคต สิ่งเหล่านี้นับเป็นปัจจัยที่ต้องได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆ กันเพื่อสร้างความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้จริง”ดร.สมคิด กล่าว
ด้าน ศ.นพ. ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ชุมชนท้องถิ่น ฐานประเทศ ฐานพลเมือง” ว่า เป็นที่น่าดีใจ ที่เห็นพลังในการขับเคลื่อนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งพลังในการขับเคลื่อนที่เราต้องเดินหน้าต่อนั้น มี 5 ประการ เรียกว่า พลัง 5 ได้แก่ 1.พลังทางสังคม 2.พลังทางปัญญา 3. พลังการจัดการ 4. พลังของความถูกต้อง 5. พลังของสันติวิธี พลังในการขับเคลื่อนชุมชนนั้น เราพูดได้ว่าเป็นการขับเคลื่อนสังคมด้วยพลังแห่งความสร้างสรรค์ เรามีบุคคลตัวอย่างดังเช่น ท่านมหาตมะ คานธี และ เนลสัน แมนเดลลา ที่ใช้พลังแห่งสันติวิธีในการเอาชนะสิ่งยากนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งหนทางที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จนั้น ข้อปฏิบัติที่จะนำเราไปสู่จุดหมายที่ขอเรียกว่า “มรรค 8” ได้แก่ การมีกัลยาณมิตร การสร้างจิตสำนึกใหม่ การรวมตัวร่วมคิดร่วมทำเต็มกำลังในพื้นที่ มีการจัดการตนเอง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่ายขยายภาคี มีระบบการสื่อสารที่ดีที่ทั่วถึงทุกคนในชุมชน รวมถึงมีการพัฒนานโยบายเพื่อขับเคลื่อนชุมชน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญสู่การเป็นพลังในการพัฒนาประเทศได้ต่อไป
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงบทบาทของ สสส. ในการหนุนเสริมเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ว่า ปีที่ผ่านมาเครือข่ายได้แสดงให้เห็นถึงพลังสังคม จนเกิดเป็น 7 พลังนโยบาย เพื่อให้เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อสร้างประเทศไทยน่าอยู่ โดยปีนี้เรามีโจทย์ว่าแหล่งเรียนรู้ในชุมชนควรสร้างผลลัพธ์และผลกระทบต่อการลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ อาทิ เรื่องการดูแลสุขภาพ, ความมั่นคงทางอาหาร, การออกกำลังกาย, การจัดการภัยพิบัติและลดอุบัติเหตุจราจร, การควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์, การควบคุมการบริโภคยาสูบ, สุขภาวะของกลุ่มเด็กและเยาวชน และการลงทุนด้านสุขภาพโดยชุมชน ซึ่งถึงเวลาที่ชุมชนท้องถิ่นจะได้มาทบทวนสวัสดิการด้านสุขภาพที่จัดโดยชุมชนในหลากหลายลักษณะบูรณาการกับการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับตำบล
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข