ความรุนแรงต่อเด็ก สร้างบาดแผลทางใจ

ที่มา : เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ (https://bit.ly/2lXd4Lr)

แฟ้มภาพ

               ผลกระทบของความรุนแรงต่อเด็กอาจไม่ใช่แค่บาดแผลทางกาย บาดแผล ทางใจส่งผลกระทบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและ วัยรุ่น “เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา” แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเด็ก

               โดยเฉพาะความรุนแรงในครอบครัวว่า ความรุนแรงในครอบครัวที่ส่งผลกระทบค่อนข้างรุนแรงกับเด็ก จะเป็นลักษณะความรุนแรงทางด้านร่างกาย เช่น การตี หรือการทำร้ายร่างกาย แต่นอกเหนือจากนั้นจะมีความรุนแรงทางด้านจิตใจที่เป็นเรื่องการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม การดุด่าว่ากล่าวด้วยอารมณ์รุนแรง   ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในครอบครัวคือสภาพสังคมในปัจจุบันซึ่ง จะมีสื่อต่างๆ ที่เป็นสื่อค่อนข้างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นสื่อในโทรทัศน์ หรือโซเชี่ยลมีเดีย อินเตอร์เน็ต โพสต์ต่างๆ มีลักษณะรุนแรงในการใช้คำพูด การดุด่าว่ากล่าว ใส่ร้ายกัน

               นอกจากนั้นอาจเป็นคลิปภาพยนตร์ ละคร หรือการ์ตูนบางอย่างที่มีความรุนแรงแอบแฝงอยู่ บางครั้ง ผู้ปกครองอาจไม่ได้ดูเป็นเพื่อนเด็ก ปล่อยให้เด็กดูคนเดียว เด็กอาจซึมซับแล้วเลียนแบบ โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ นอกจากนั้นคือสังคมที่โรงเรียนบางครั้งมีการใช้ความรุนแรงกัน เช่น เพื่อนใช้ความรุนแรงกลั่นแกล้งกัน ในสังคมระดับครอบครัว คุณพ่อคุณแม่มีความเครียด ไม่สบายใจ อาจเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ หรือคุณพ่อคุณแม่ผู้ใหญ่บางคนมีปัญหาสุขภาพจิต

               ส่งผลให้เกิดความเครียด แสดงออกมาในเรื่องความรุนแรง ทะเลาะเบาะแว้งกัน บางครั้งเด็กอาจไม่เชื่อฟัง ผู้ใหญ่ซึ่งมีความเครียดอยู่ก็ใช้ความรุนแรงกับเด็ก บางคนมีการใช้ยาเสพติด ดื่มเหล้า เมาเหล้าและใช้ความรุนแรง ขาดสติ เด็กบางคนอาจเอาแต่ใจตัวเอง ยังเป็นวัย ที่พัฒนาการการควบคุมตัวเองยังไม่ดีพอ เด็กบางคนซน อยู่ไม่นิ่งหรือเลี้ยงยาก คุณพ่อคุณแม่ไม่มีวิธีจัดการดูแลเด็กที่ถูกต้อง บวกกับความเครียดจึงออกมาด้วยการใช้ความรุนแรง ประกอบกับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม

               คุณหมอเบญจพร กล่าวต่อว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ส่งผลกระทบต่อตัวเด็ก เด็กจะเกิดบาดแผลทางจิตใจ วิตกกังวล ซึมเศร้า ไม่มั่นใจ ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง มีงานวิจัยหลายอย่างที่ บอกว่าความรุนแรงที่เด็กเจอใน วัยเด็กจะติดตามไปถึงตอนที่เขาเป็นผู้ใหญ่ ส่งผลออกมาทางกายหลายอย่าง ในด้านครอบครัวแน่นอนว่าส่งผลถึงสัมพันธภาพระหว่างเด็กและคนในครอบครัว เกิดความขัดแย้ง เด็กอาจไปติดเพื่อนหรือหลบไปอยู่ในสิ่งที่ผิดๆ คุณพ่อคุณแม่อยากเตือน แต่ด้วยสัมพันธภาพไม่ดีก็เลยพูดคุยตรงนี้ไม่ได้ ผลกระทบคือเด็กอาจจะไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม

               “วิธีการป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ควรเริ่มตั้งแต่ระดับภาคสังคมและประชาชนต้องร่วมมือกันเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่เผยแพร่สื่อที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง ในครอบครัวควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทั้งร่างกายและคำพูด พยายามคุยกันด้วยสติและเหตุผล หาวิธีจัดการกับอารมณ์ การยุติความรุนแรงต่อเด็กต้องอาศัยความร่วมมือ ของทุกๆ คนในสังคม เริ่มต้นที่ตัวเราเอง ไม่แสดงออกด้วยความรุนแรง ไม่ยอมรับความรุนแรงทุกรูปแบบ” คุณหมอเบญจพร กล่าวทิ้งท้าย