ของขวัญปลอดเหล้า
ส่งมอบความจริงใจ แบบไร้แอลกอฮอล์
ใครที่ดูโฆษณาทางโทรทัศน์ภาพเคลื่อนไหวการให้ “เหล้า” เป็นของขวัญ ก่อนให้บอกว่าเหล้าไม่ดีกินแล้วมีโทษแก่ตัวและคนอื่นแต่ที่สุดก็ให้เหล้าเป็นของขวัญในโฆษณาปิดท้ายด้วยประโยคว่า “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” ทำนองนี้แหละ
โฆษณาชิ้นนี้ถ้าจำไม่ผิดเป็นงานของ สสส.หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
การให้ของขวัญกันสำหรับสังคมไทยให้ได้หลายโอกาส และคนจำนวนไม่น้อยมักให้ของขวัญที่มีแอลกอฮอล์แนบไปด้วยตลอดหลักเลยก็คือเหล้า
วันเกิดก็ให้เหล้า วันแต่งงานก็ให้เหล้าเทศกาลต่างๆ ก็ให้เหล้า แม้กระทั่งงานบุญ อย่างงานบวชไปถึงในวัดไปทำงานบุญในวัดในสถานที่ศาสนสถานก็ยังอุตส่าห์เอาเหล้าไปกำนัลกัน
เทศกาลที่ให้ของขวัญกันมากแบบให้กันทั้งประเทศ ยากดีมีจนให้กันหมด จนขนาดแทบไม่มีจะกินก็ยังอุตส่าห์รักษาประเพณีหาของขวัญให้กับเขาบ้าง แล้วไม่ได้คิดถึงอะไรนอกเหนือไปจากเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากชนิดที่มีอยู่ในท้องตลาด ตามกำลังที่ตัวเองจะหาไปกำนัลคนอื่นได้
นั่นคือเทศกาลวันขึ้นปีใหม่จริงๆ แล้วการให้ของขวัญกันเป็นเรื่องดีงามไม่ว่าจะในเทศกาลหรือโอกาสใดก็ตาม ยิ่งใครที่มีจิตใจให้ด้วยรู้สึกแบ่งปัน คือตัวเองหรือครอบครัวพอมีพอใช้พอกิน ที่เหลือบ้างก็แบ่งปันให้คนอื่นตามโอกาส ถือเป็นการเสียสละ เป็นการละความตระหนี่ขจัดความโลภในใจให้ละลายหายไปทีละเล็กละน้อย
เมื่อไม่ตระหนี่ก็ไม่โลภหรือโลภน้อยดังกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานไว้ให้คนไทยได้ตระหนักสำนึกกัน
แต่ต้องเป็นการให้ที่ดีงาม ให้วัตถุที่ไม่นำไปสู่ความประมาท ขาดสติอย่างพวกแอลกอฮอล์แม้ไม่ใช่สิ่งของเช่นให้กำลังช่วยเหลือให้คำแนะนำที่ดีงาม ให้คุณธรรมที่เรียกว่าพรหมวิหารสี่ก็ได้บุญกุศลเป็นความดีงามเช่นกัน
การให้ของขวัญในเทศกาลปีใหม่ที่ถือว่าเป็นประเพณีของคนทั้งโลกคนไทยก็ยึดโยงเอาตามความนิยมนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย แต่คติของไทยมีความเชื่อที่ดีงามเป็นจุดเริ่มต้นมาแต่โบราณกาลว่า ให้วัตถุสิ่งของความรู้สึกที่นำไปสู่ความดีงามที่จะเข้ามาสู่ชีวิตครอบครัว สังคมในปีใหม่ ส่วนปีเก่าอะไรที่ดีงามรักษาสืบสานต่อไป อะไรที่ไม่ดีก็ให้ทิ้งร้างขว้างหายไปกับปีเก่ากาลเวลาเก่าที่ผ่านไปแล้ว
มีสิ่งที่ดีงามสำหรับเป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่มากมายมหาศาล อย่างสิ่งบำรุงร่างกายตั้งแต่พืชสมุนไพรไปจนกระทั่งหลักธรรมคำสั่งสอนในพระศาสนาต่างๆ การให้เครื่องมือประกอบอาชีพ การให้ความรู้ในการประกอบอาชีพ หรืออย่างการได้รับศีลรับพรจากพ่อแม่ผู้หลักผู้ใหญ่การได้รับพระราชทานพรปีใหม่จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและจากสมเด็จพระสังฆราช เป็นต้น
เราเองก็สามารถให้สิ่งดังกล่าวแก่คนอื่นได้ด้วยเช่นกันแต่ทำไมคนไทยมักนิยมให้สิ่งของชั่วร้ายที่เป็นอบายมุขที่นำไปสู่ความประมาทขาดสติ คือ เครื่องดื่ม “แอลกอฮอล์” กันซะเป็นหลักของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แนบติดมาด้วยในกระเช้าของขวัญผู้รับแม้เพียงชำเลืองเห็นอาจรู้สึกดีใจโดยลืมนึกไปว่า ใครที่เอาของขวัญมาให้นั้นกำลังเอา “มัจจุราช” เอาความเลวร้ายมาให้
หาใช่เอาความดีงามมาให้แต่อย่างใดไม่”เป็นการแช่งชักหักกระดูก” จริงๆดังโฆษณาที่ สสส.ทำไว้รณรงค์ให้สติกันซะด้วยจริงๆ
เทศกาลปีนี้ขอให้คนไทยทุกคนตั้งสติทบทวนความจริงตรงนี้กันสักนิดเถอะว่าจริงตามที่ว่ามาข้างต้นหรือไม่ ถ้าเห็นจริง เริ่มนับหนึ่งการให้ของขวัญที่ปลอดจากตัวทำลายทำร้ายร่างกายจิตใจ ทำร้ายเศรษฐกิจตัวเอง ครอบครัวและชาติบ้านเมืองซะตั้งแต่ปีส่งท้าย 2552 รับปีใหม่2553 ก็ไม่สายเกินไป
กระเช้าของขวัญปีใหม่ 2553 อย่าให้มีเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แอบแนบติดไปด้วยเล้ยเจ้าประคู้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
Update: 04-01-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์
