ขยายโมเดล 10 จังหวัด ลดวัยรุ่นท้องไม่พร้อมได้สำเร็จ รัฐบาลขยายผลสู่เป้าหมายปี 2570

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

                    รัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหาท้องในวัยรุ่น เน้นบูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงาน สสส.-กรมอนามัย-สมาคมแพทย์สตรีฯ พร้อมนำบทเรียน 8 คู่มือปฏิบัติงานเสริมสร้างกลไกความเข้มแข็งในระดับพื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง ลดวัยรุ่นท้องไม่พร้อมได้สำเร็จ เตรียมขยายผลมุ่งสู่เป้าหมายท้องไม่พร้อมเหลือ 15 คนต่อพันคน ภายในปี 70

                    เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 19 ธ.ค. 2568 ที่ห้องประชุมไดมอนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิชคอนเวนชั่น โฮเทล จ.นนทบุรี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิด “การประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งมอบผลงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศ” โดยจัดขึ้นร่วมกันระหว่าง สมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

                    นายพัฒนา กล่าวว่า ในปี 2553 ประเทศไทยมีอัตราการตั้งครรภ์ในเด็กวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ค่อนข้างสูงที่ 50 ต่อพันคน แต่จากการร่วมกันทำงานทำให้ตอนนี้สถิติลดลงไปกว่าครึ่งแล้ว อย่างก็ตาม เรามีเป้าหมายลดอัตราการตั้งครรภ์ในกลุ่มวัยรุ่นให้เหลือ 15 คนต่อพันคน ภายในปี 2570 โดยสร้างความเข้าใจเรื่องการเรื่องการคุมกำเนิด และตระหนักถึงการตั้งครรภ์ในขณะที่ยังไม่มีความพร้อม จะส่งผลต่อครอบครัว ทั้งครอบครัวที่อยู่และครอบครัวที่สร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึงสภาพจิตใจ เศรษฐกิจ สังคม เป็นต้น ทั้งนี้การทำงานแก้ปัญหาในพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ หวังว่าโครงการแบบนี้จะถูกขยายผลออกไปในวงกว้าง เพื่อให้สภาพเศรษฐกิจ สังคม ครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของสังคม มีความแข็งแรง แม้ว่าประชากรไทยจะมีแนวโน้มลดลง แต่เมื่อเกิดมาแล้วต้องให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง สูตร 32+1 คือ สภาพจิตใจดีร่วมด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นวาระที่เราต้องทำต่อเนื่อง และร่วมกันทำอย่างเข้มแข็ง

                    พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การศึกษา เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ การขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจาก 6 กระทรวงหลัก และการทำงานเชิงบูรณาการในระดับพื้นที่ ผ่านคณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับจังหวัด โดยกรมอนามัยในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ยินดีสนับสนุนการนำผลสำเร็จของโครงการไปขยายผลเพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้แก่วัยรุ่นและเยาวชนไทยอย่างยั่งยืน

                    ด้าน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 โดยสนับสนุนการพัฒนานโยบาย กลไก รูปแบบการทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่ ต่อมาในปี 2566 สสส. ได้ร่วมกับ สมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยฯ ดำเนินโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศใน 10 จังหวัดที่มีอัตราการคลอดสูงสุด ประกอบด้วย ตาก แม่ฮ่องสอน นครนายก ระยอง จันทบุรี สระแก้ว อุทัยธานี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี และราชบุรี โดยได้พัฒนาคู่มือปฏิบัติงาน 8 คู่มือ สำหรับศูนย์พิทักษ์สิทธิเยาวชนตำบล ครูนางฟ้าประจำโรงเรียน รพสต.เชิงรุก โรงเรียนครอบครัว สถานประกอบการ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) และอนุกรรมการจังหวัด เพื่อยกระดับกลไกการทำงานของอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของจังหวัดให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

                    “ผลการดำเนินงาน พบว่า ในปี 2567 อัตราการคลอดของวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ใน 10 จังหวัดนำร่อง มีอัตราลดลง 7.75 คนต่อพันคน ขณะที่อัตราการคลอดของอีก 65 จังหวัดที่ไม่ได้มีการดำเนินการ ในปี 2567 ลดลง 5.8 คนต่อพันคน การดำเนินงานใน 10 จังหวัดนำร่อง มีอัตราการลดลงที่มากกว่า สะท้อนถึงผลลัพธ์เชิงบวกของการดำเนินงานเป็นส่วนหนึ่งทำให้อัตราการคลอดของแม่วัยรุ่นระดับประเทศลดลง โดยในปี 2567 อยู่ที่ 18.6 คนต่อพันคน อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายเพื่อลดอัตราการคลอดมีชีพในหญิงอายุ 15-19 ปี ไม่เกิน 15 คนต่อพันคน ภายในปี 2570 ซึ่ง สสส. และภาคีเครือข่าย ยังคงมุ่งมั่นต่อยอดการทำงานเชิงรุก และขยายพื้นที่การทำงานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ” รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว

                    พญ.มยุรา กุสุมภ์ นายกสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า สมาคมฯ มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสตรี เด็ก และเยาวชน และได้ดำเนินงานด้านเพศวิถีศึกษาและทักษะชีวิตมาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นต้นแบบการทำงานร่วมกับจังหวัดและภาคีเครือข่าย ซึ่งนำไปสู่การขยายผลโครงการใน 10 จังหวัดเป้าหมาย เพื่อช่วยลดอัตราการคลอดในวัยรุ่นและสร้างโอกาสทางการศึกษาและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่เยาวชน

                    พญ.สมสิริ สกลสัตยาทร ประธานโครงการฯ กล่าวว่า โครงการได้ต่อยอดจากบทเรียนความสำเร็จ จากจังหวัดต้นแบบที่ สสส. เคยสนับสนุน จัดทำเครื่องมือสำคัญ ได้แก่ คู่มือปฏิบัติงานสำหรับหน่วยงานด่านหน้า ระบบรายงาน ผลการเฝ้าระวังรายเดือนและกลไกคณะทำงานบูรณาการ Strategic and Technical Advisory Group (STAG) เพื่อเสริมพลังให้จังหวัดขับเคลื่อนงานด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ผลการดำเนินงานในช่วง 30 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราการคลอดมีชีพในหญิงอายุ 15-19 ปี ลดลงในทุกจังหวัดเป้าหมาย และลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นทั่วประเทศ โดยพร้อมมอบผลงานและองค์ความรู้จากโครงการให้แก่คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติ เพื่อใช้เป็นฐานในการขยายผลทั่วประเทศ

Shares:
QR Code :
QR Code