กินเจไม่ระวัง! เจอเนื้อสัตว์ปนเปื้อน

ที่มา : มติชนออนไลน์


กินเจไม่ระวัง! เจอเนื้อสัตว์ปนเปื้อน thaihealth


แฟ้มภาพ


กินเจไม่ระวัง! เจอเนื้อสัตว์ปนเปื้อนกลุ่มอาหารเลียนแบบ สธ.ตรวจพบวัตถุกันเสียใน’ผักดอง’เพียบ!


          เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว “กินเจดูแลใจ ให้ไกลโรค” เพื่อให้ประชาชนกินเจอย่างสุขภาพดี ห่างไกลโรคหัวใจและโรคเรื้อรัง ว่า วันที่ 1-9 ตุลาคม 2559 เป็นเทศกาลกินเจ เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะรักษาศีล ปฏิบัติธรรม และไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ โดยงดการบริโภคเนื้อสัตว์ หันมากินผักผลไม้ ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและจิตใจ ช่วยลดการเจ็บป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งแต่ละปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิต 17.5 ล้านคน คนไทยมีแนวโน้มการป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มมากขึ้น


          นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังคุณภาพและปลอดภัยอาหารช่วงเทศกาลกินเจ โดยการสุ่มตรวจอาหารเจในย่านเยาวราชแล้วนำมาตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการในรอบ 4 ปี ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2556-2559 พบว่า


1.ผักดอง เช่น กาน่าฉ่าย เกี๊ยมฉ่าย ผักกาดดอง หัวไชโป๊ เก็บตัวอย่างทั้งสิ้น 102 ตัวอย่าง ตรวจผงกรอบหรือสารบอแรกซ์ และสารกันเชื้อรา ไม่พบแม้แต่ตัวอย่างเดียวว่ามีการผสมสารดังกล่าวตลอดทั้ง 4 ปี ส่วนวัตถุกันเสียหรือกรดเบนโซอิก/กรดซอร์บิก พบเกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนดคิดเป็นร้อยละ 65 ปริมาณที่พบ 1,026-10,608 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จากที่กฎกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้ใช้ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยพบใน ผักกาดดอง/เกี๊ยมฉ่ายยำ100 เปอร์เซ็นต์ ไชโป๊ฝอยร้อยละ 90 แต่ตัวอย่างที่พบว่ามีการใช้ปริมาณสูงสุด ได้แก่ กาน่าฉ่าย


          2.อาหารเจทำมาจากแป้งสาลีหรือบุก อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ลูกชิ้นเจ เก็บ 51 ตัวอย่าง ตรวจไม่พบสารบอแรกซ์ตลอด 4 ปี 3.อาหารเจเลียนแบบเนื้อสัตว์ ได้แก่ หมูแดงเจ ทอดมันเจ เต้าหู้ปลาเจ ไส้กรอกเจ สามชั้นเจ เป็นต้น ตรวจหาดีเอ็นเอเนื้อสัตว์จำเพาะ จำนวน 35 ตัวอย่าง พบดีเอ็นเอเนื้อสัตว์ปนเปื้อน คิดเป็นร้อยละ 66 ส่วนใหญ่เป็นตัวอย่างไม่มีฉลาก และตรวจเจอในปริมาณน้อย คาดว่าอาจปนเปื้อนจากการใช้เขียงหรืออุปกรณ์บางอย่างร่วมกัน ทำให้มีอีเอ็นเอของเนื้อสัตว์ปนในปริมาณน้อย และ 4.ผักที่นิยมบริโภคช่วงเทศกาลกินเจ ได้แก่ คะน้า ผักกาดขาว แครอต ผักโขม กะหล่ำปลี หัวไชเท้า มะเขือเทศ เห็ดสด มะเขือยาว แตงกวา และผักบุ้ง เป็นต้น ตรวจสารเคมีกำจัดศัตรูพืช จำนวน 133 ตัวอย่าง พบสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เกินค่ากำหนดร้อยละ 12


          “กรดเบนโซอิกเป็นวัตถุกันเสียที่มีความเป็นพิษต่ำ ละลายได้ในน้ำและถูกทำลายได้ด้วยความร้อน แต่ถ้าได้รับในปริมาณที่สูงมากอาจทำให้เกิดอันตรายได้ สำหรับผู้ที่แพ้สารนี้แม้ได้รับปริมาณน้อยอาจจะแสดงอาการได้ เช่น เกิดผื่นคัน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ดังนั้น ไม่ควรบริโภคครั้งละมากๆ ส่วนการรับประทานอาหารเจที่เลียนแบบเนื้อสัตว์ ผู้บริโภคหรือผู้ปรุงอาหารควรเลือกซื้อวัตถุดิบจากร้านที่มั่นใจและอาหารต้องมีฉลากระบุ สถานที่ผลิต วันเดือนปี และเลขสาระบบอาหารที่ชัดเจน เพราะถ้าแหล่งผลิตไม่ได้มาตรฐานบางครั้ง อาจมีส่วนประกอบ เช่น ไข่ นมหรือเนื้อสัตว์ปนเปื้อน และหลีกเลี่ยงการรับประทานหรือซื้ออาหารที่มีการแปรรูปและรสชาติที่เหมือนเนื้อสัตว์มากจนเกินไป ผัก ผลไม้สดควรล้างน้ำให้สะอาดกินรับประทานหรือนำมาปรุงอาหาร” นพ.พิเชฐกล่าว


        นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า อาหารเจส่วนใหญ่ มักเป็นแป้ง และอาหารทอดที่มีไขมันสูง การกินเจให้มีสุขภาพดีและน้ำหนักไม่ขึ้น คือการกินอาหารให้ครบทุกมื้อ ในปริมาณเพียงพอ เน้นกินผัก และผลไม้สดที่ไม่หวานเกินไป เมนูเจสุขภาพที่สามารถทำรับประทานเองง่ายๆ ในช่วงเทศกาลกินเจ ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ปอเปี๊ยะสด ยำเต้าหู้ ลาบเต้าหู้ น้ำพริกหนุ่ม พล่าหัวปลี ส้มตำผลไม้ เป็นต้น สำหรับการล้างผักผลไม้ เพื่อกำจัดยาฆ่าแมลงให้หมดไปหรือลดปริมาณลงไปจนไม่เป็นอันตราย ทำได้โดยการลอกเปลือกที่สามารถลอกได้ทิ้งไป แล้วล้างด้วยน้ำไหล 2นาที หรือแช่ด้วยน้ำเกลือ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร น้ำผสมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตวงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร นาน 15 – 30 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่าอีก 2 ครั้ง

Shares:
QR Code :
QR Code