กิจกรรมอบรม Mind Storming
กิจกรรมอบรม Mind Storming
โลกมีรูปแบบของการประชุมใหญ่ๆ เพียง 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.การถ่ายทอดข้อมูลหรือความรู้ (Propagate) เพื่อนำไปปฏิบัติตามคำสอน /คำสั่งอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรบางประเภท เช่น สถาบันศาสนา สถาบันศาล สถาบันกองทัพ เป็นต้น ซึ่งเทคนิควิธีที่เราคุ้นเคย เช่น การบรรยาย (Lecture) 2.การระดมสมอง (Brain Storming) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือความรู้ ก่อนนำไปปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรแบบระบบปิด เช่น โรงงาน บริษัท เป็นต้น แต่ทั้งสองรูปแบบนั้น อาจไม่เหมาะสำหรับองค์กรแบบระบบกึ่งปิดกึ่งเปิด เช่น หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรภายใต้กำกับของรัฐ องค์การมหาชน โดยเฉพาะองค์กรแบบระบบเปิดและต้องการชีวิตชีวา เช่น องค์กรภาคประชาสังคม ที่มีกลุ่มเป้าหมายหรือผู้รับบริการคือ ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่มีความอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับระบบ และมีความปรารถนาที่ต่างออกไป
ดังนั้นแนวทางการสานพลังจะใช้รูปแบบการระดมจิตใจ (Mind Storming) เพื่อให้เกิดการยับยั้งชั่งใจ ไม่พรวดพราดนำความเห็นของตนเป็นใหญ่ โน้มน้าว ชักจูงคนอื่นให้เชื่อและทำตามความเห็นของตน กระบวนการระดมจิตใจอาศัยสภาวะเพื่อนมนุษย์ภายในแต่ละคน เหนี่ยวนำให้เกิดสภาวะความรักแบบเพื่อนมนุษย์ร่วมกัน สภาวะดังกล่าวอาจทำให้เข้าถึงเป้าประสงค์ที่ล้นพ้น (Purposefulness) อยู่เหนือเป้าหมายส่วนตัว นำพาให้เกิดความศรัทธาในชีวิต พร้อมเพิกเฉยความเชื่อที่จำกัดศักยภาพของตนเอาไว้ จนอดไม่ได้ที่จะจับไม้จูงมือทำในสิ่งที่ควรทำ กล้าพอที่จะทำกิจกรรมจากใจร่วมกัน โดยไม่รู้สึกว่ากำลังทำตามคำสั่ง ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องของเรา/ของเขา ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระหรือเป็นส่วนเกินของชีวิต ไม่รู้สึกกระทบต่อความมั่นคงในชีวิต กระบวนการดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้สมองตื่นตัวอย่างไร้ขีดจำกัด รับรู้ถึงความเป็นอิสระและตามลุ้นผลลัพธ์ที่จะปรากฏตามมา เป็นความรู้สึกคล้ายเด็กกลุ่มใหญ่ที่กำลังเล่นสนุกสนานในสนามอย่างระบบเปิด มากกว่ากำลังทำงานอย่างเคร่งเครียดในห้องทำงานอย่างระบบปิด
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม
ผู้ที่เหมาะสมอย่างยิ่งยวดสำหรับกระบวนการนี้ ไม่ใช่คนที่เชื่อมั่นและใช้รูปแบบเดิม แต่เป็นคนที่ผ่านรูปแบบเดิมมาอย่างโชกโชน จนกระทั่งยอมรับกับตัวเองว่าถึงทางตันและไปไม่เป็น รวมทั้งคนที่กำลังเผชิญหน้าและไม่อาจเลี่ยงตอบคำถามเกี่ยวกับชีวิตได้ ซึ่งแกนนำทั้งสามข่ายที่มีคุณสมบัติเหล่านี้มีจำนวนมาก คนที่เหมาะสำหรับฝึกฝนทักษะดังกล่าวและนำไปใช้ได้ผลดีเลิศ ได้แก่
1. คนที่เคยเป็นวิทยากร (Lecturer) หรือวิทยากรกระบวนการ (Facilitator) มาอย่างโชกโชน และกำลังเกิดความรู้สึกเหล่านี้
– เมื่อจบเวทีแล้วรู้สึกว่า “ยังทำได้ดีกว่านี้อีก”
– ยอมรับกับตนเองว่า “ตัน” ไปไม่เป็น มืดแปดด้าน ออกซ้ายออกขวาไม่ได้
– เคยมั่นใจ คิดว่าสำเร็จ แต่เดี๋ยวนี้ชักเริ่มชั่งใจ ไม่แน่ใจ สงสัยลังเล
– มีหลายคำถามเกี่ยวกับเวทีที่ขบไม่แตก
– อยากเห็นสังคมดีขึ้น มั่นใจในตัวเองและลงมือทำทุกสิ่ง แต่เริ่มเหนื่อยใจ ดันทุรังต่อไปไม่ไหว
– รู้แก่ใจว่ากระบวนการหรือวิธีที่เคยใช้…ไม่ใช่! แต่ไม่รู้ว่าอะไรคือกระบวนการที่…ใช่! จึงจัดแบบเดิมไปเรื่อยๆ
2. บุคคลทั่วไปที่
– เบื่อหน่ายห้องประชุมแทบอาเจียน แต่ยังต้องอยู่กับห้องประชุม อยากค้นหารูปแบบใหม่ๆเพื่อจะได้อยู่ในบรรยากาศที่ปรารถนา
– รู้แน่ชัดว่าตนเกิดมาเพื่อเป็นนักจัดกระบวนการประชุม รักในการประชุมเป็นชีวิตจิตใจ ยอมสละทุกอย่างเพื่อได้อยู่กับห้องประชุม
กำหนดการจัดเวที ช่วงเดือน เมษายน – พฤษภาคม 2557 ภาคละ 1 รุ่นๆละ 30 คน จำนวนวัน 4 วัน 3 คืน จัดในรีสอร์ทภายในบริเวณภาคนั้น เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประสานที่ คุณวีรญา เดชเฟื่อง(จอร์จี้) และคุณภารวี มากระจาย (โซดา)
ใครสมัครก่อน มีสิทธิก่อน หากครบ จะหยุดรับสมัครทันที โดยมีค่าสมัครคนละ 1,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสะพานขาว ชื่อบัญชี วีรญา เดชเฟื่อง บัญชีเลขที่ 021-0-04685-6 ภายใน 2 สัปดาห์ก่อนจัด และหลังจากการอบรมจะได้รับเงินคืนครบ หากท่านใดที่ไม่มาอบรมในวันเวลาที่แจ้งไว้เท่านั้น จะถือว่าสละสิทธิ์และทางโครงการฯ จะนำเงินไปใช้ในการกุศลต่อไป (ซึ่งในรายละเอียดจะแจ้งต่อไป)
ทั้งนี้ทางโครงการฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยกเว้นค่าเดินทางที่ผู้เข้าร่วมเวทีจะต้องจ่ายเอง เพื่อยืนยันว่าเข้าข่ายมีคุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม (เนื่องจากในโครงการฯไม่ได้ตั้งไว้ เพราะมีเจตนาจะให้เป็นการสบทบอยู่แล้ว)
หมายเหตุ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแกนนำระดับภาค จังหวัด อำเภอ ที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายเท่านั้น แต่อาจเป็นแกนนำในจังหวัดอื่นๆและเครือข่ายอื่นๆที่ร่วมงานกันก็ได้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
วีรญา เดชเฟื่อง 087-5920189 และ ภารวี มากระจาย 086-8943353