“กว่าจะเป็น 101 เล่มในดวงใจนักเขียนและนักอ่าน”
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ร่วมกับแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และบริษัทซีพี ออลล์ จัดงานแถลงข่าว “กว่าจะเป็น 101 เล่มในดวงใจนักเขียนและนักอ่าน” เพื่อแนะนำอันดับหนังสือ 101 เรื่อง ที่ได้รับการโหวตจากนักอ่านและนักเขียน โดยมี คุณชมัยภร เเสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย คุณนรีภพ สวัสดิรักษ์ กรรมการสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ฝ่ายกิจกรรมสันทนาการ คุณวันทนีย์ นามะสนธิ ผู้แทนบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด มหาชน และคุณสุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร์ นักวิชาการวรรณกรรม ร่วมแถลงข่าว
ชมัยภร แสงกระจ่าง เปิดแถลงข่าวเริ่มด้วย ตามที่รัฐบาลประกาศให้ปี พ.ศ. 2552 – 2557 เป็นวาระการอ่านแห่งชาติ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยจึงได้มีกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ในหัวข้อ “ร้อยหนังสือในดวงใจนักเขียน ร้อยนักเขียนในดวงใจนักอ่าน” จัดสัมมนาทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จ.มหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านจอมบึง จ.ราชบุรี, มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้เปิดตัวโครงการในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งได้สำรวจความคิดเห็นนักศึกษา โดยการแจกแบบสอบถามหนังสือในดวงใจ เหตุผลที่ชอบอ่าน และอ่านเมื่ออายุเท่าไร สำหรับบุคคลทั่วไปได้มีการสำรวจผู้อ่าน โดยความร่วมมือของนิตยสารต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง ในส่วนของสมาชิกสมาคมนักเขียนฯ ได้สำรวจโดยใช้แบบสอบถามเป็นไปรษณียบัตร ซึ่งทางแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. ก็ได้ให้ความสนใจเข้าร่วม และนำแบบสอบถามไปใช้เมื่อจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเราได้เชิญเป็นเจ้าภาพร่วมด้วย
“เมื่อจัดทำบรรณิทัศน์หนังสือ 101 เล่มฯ เสร็จแล้ว ทางสมาคมนักเขียนฯ จะจัดแถลงข่าว และจะนำมาใช้ในการกระตุ้นส่งเสริมการอ่าน ซึ่งพบว่า ปัจจุบันปัญหาการอ่านของเด็กคือ หนังสือเดินทางไม่ถึงมือเด็ก และเมื่อเด็กได้หนังสือแล้ว จะส่งเสริมการอ่านแก่พวกเขาอย่างไร สำหรับหนังสือเล่มไหนที่ไม่ได้ติดอันดับ 101 เล่ม ยืนยันว่า ทางสมาคมฯ ทำด้วยใจจริง และก็ขออภัยไว้ด้วย” นายกสมาคมนักเขียนฯ กล่าวทิ้งท้าย
นรีภพ สวัสดิรักษ์ พูดเสริมว่า ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านทั้ง 4 ภูมิภาค พบตัวอย่างการอ่านที่น่าสนใจ เช่น ที่ราชบุรี เด็กคนหนึ่งชอบอ่านเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” จบแล้วอยากแต่งกลอน ที่หาดใหญ่ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ชอบอ่านเรื่อง “เพชรพระอุมา” พบว่า อ่านแล้วได้ข้อคิดเรื่องมิตรภาพของรพินทร์ ไพรวัลย์ และแงซาย กล่าวคือยามปกติทั้งคู่จะเป็นคู่ปรับกัน แต่ยามคับขันจะช่วยเหลือกันดี นอกจากนั้น ยังได้ความรู้เรื่องสมุนไพรอีกด้วย
สุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร์ อธิบายเพิ่มว่า เราได้คัดหนังสือ 101 เล่ม มาเป็นหนังสือในดวงใจนักอ่านและนักเขียน สามารถแยกประเภทเป็น หนังสือนวนิยาย 57 เล่ม, นวนิยายออนไลน์ 2 เรื่อง, สารคดี 11 เรื่อง, รวมเรื่องสั้น 9 เล่ม, วรรณคดี 7 เรื่อง, นิทาน 1 เรื่อง, กวีนิพนธ์ 3 เรื่อง, การ์ตูน 12 เรื่อง และนิตยสาร 1 ฉบับ สำหรับ 10 อันดับแรกของ 101 เล่มนั้น ได้แก่ 1. แฮร์รี่ พอตเตอร์ 2. ความสุขของกะทิ 3. ลูกอีสาน 4. ข้างหลังภาพ 5. สี่แผ่นดิน 6. เพชรพระอุมา 7. เจ้าชายน้อย 8. คำพิพากษา 9. คู่กรรม และ 10. หัวขโมยแห่งบารามอส จากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า นวนิยายอาจไม่ใช่งานเขียนที่ดีที่สุด แต่ก็ประทับอยู่ในความทรงจำนักอ่านเสมอ ผู้อ่านสามารถซึมซับลักษณะเด่นของเรื่องได้ดี
วันทนีย์ นามะสนธิ ย้อนความถึงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณชมัยภรได้เสนอความคิดเรื่องกิจกรรมสัญจรการอ่าน 4 ภูมิภาค มายังบริษัทซีพีฯ ก็เลยตัดสินใจทำทันที เพราะมีความศรัทธาและชื่นชมสมาคมนักเขียนฯ อยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการตอบโจทย์เรื่องการอ่านของสังคม ซึ่งเรามักจะได้ยินคนพูดว่า “จะอ่านหนังสืออะไรดี” กอปรกับทางผู้บริหารก็มีนโยบายส่งเสริมให้พนักงานชื่นชมความงามของชีวิต ซึ่งวรรณกรรมก็เป็นความงามอย่างหนึ่ง เราก็เลยส่งเสริมด้านการอ่านไปด้วย ที่ผ่านมาบริษัทซีพีฯ ได้ส่งเสริมการอ่านมาตั้งแต่ปี 2547 จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น มอบหนังสือให้แก่ห้องสมุด, ส่งเสริมบรรณารักษ์นักอ่าน, ชุมชนการอ่าน, จัดประกวดหนังสือรางวัลเซเว่นบุ๊คอะวอร์ด ฯลฯ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทำให้เกิดการเรียนรู้สู่สังคม
การแถลงข่าวจัดขึ้นที่ห้องอาหาร ภัตรคารนิวออร์ลีน ผับแอนด์เรสตัวรองท์ ถนนพระสุเมรุ วันที่ 28 กันยายน 2553 เวลา 14.00 น. โดยเชิญผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนมาร่วมงานอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ ภายในงานได้จัดงานเลี้ยงเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับ “ซะการีย์ยา อมตยา” กวีซีไรต์คนล่าสุดอีกด้วย
ที่มา : แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน
update: 01-10-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน
