กลับบ้านปลอดภัย ไร้ควันบุหรี่
เรื่องโดย จุติพร วรรณศิริ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจาก งานเสวนา “กลับบ้านปีใหม่ ไร้ควันบุหรี่”
ภาพโดย ปารมี ขันธ์แก้ว Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
“หนูอยากให้พ่อเลิกบุหรี่” ความในใจจากลูก ที่หวังอยากให้พ่อหยุดสูบบุหรี่ อย่างที่เราทราบกันดีว่าบุหรี่ คือสาเหตุการเกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจ และเส้นเลือดในสมอง การสูบก็เช่นกัน ไม่เพียงแต่ส่งผลร้ายกับผู้สูบเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงคนรอบข้างได้อีกด้วย โดยเฉพาะ “ครอบครัว”
และหากเป็นไปได้ก็เชื่อว่า ลูก ๆ อยากให้คุณพ่อหยุดสูบบุหรี่ตั้งแต่เนิ่นๆ อยากให้อยู่กับครอบครัวด้วยการมีสุขภาพที่ดี อยู่กับครอบครัวและลูกไปนาน ๆ ทุกเทศกาล เพราะผู้สูบบุหรี่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ครอบครัวจะทำใจยอมรับการจากไปของผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ได้ง่ายดายนัก
ด้วยเหตุนี้ สสส. และภาคีเครือข่ายร่วมกับสมาคมเครือข่ายพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ เครือข่ายครอบครัวปลอดบุหรี่ เครือข่ายสื่อสร้างสรรค์เพื่อการขับเคลื่อนสังคม (Media Move) จัดงานเสวนา “กลับบ้านปีใหม่ ไร้ควันบุหรี่” และเชิญชวนผู้ที่สูบบุหรี่ให้ใช้ช่วงเวลาปีใหม่ปีนี้ ตั้งปณิธานในการเลิกบุหรี่ เพื่อเป็นของขวัญแทนความห่วงใยให้ตัวเองและครอบครัวที่คุณรัก ทั้งนี้หากผู้ที่สูบบุหรี่ต้องการความช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่สามารถโทรขอคำปรึกษาได้ฟรีที่สายเลิกบุหรี่ 1600”
รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กล่าวว่า กลับบ้านปีใหม่ไร้ควันบุรี่ เป็นสิ่งที่เรารณรงค์อยู่ตลอด เชื่อว่าทุกบ้านอยากเห็นคนในครอบครัวเลิกบุหรี่และมีสุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัยทั้งกายและใจ และหากว่าเลิกสูบบุหรี่ได้ก็จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกหลาน แม้ว่าตัวผู้สูบเองจะได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว แต่คนมือสองนั้นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ไม่เพียงแต่คนมือสองเท่านั้น คนมือสามก็มีส่วนได้รับผลกระทบตรงนี้ เพราะควันและละอองขี้บุหรี่ที่ติดเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในบ้าน ก็มีส่วนที่เหล่าละอองบุหรี่เหล่านี้ติดไปโดยไม่รู้ตัว ผลกระทบคนมือสามก็คือลูกน้อยนั่นเอง ที่อาจจะเกิดโรคหอบหืด หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้
รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวต่อไปว่า “นอกจากนี้ยังส่งผลไปถึงมือที่สี่ต่อด้วย ถ้าหากในบ้านมีคนที่ตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์จะได้รับนิโคตินไปโดยปริยาย ไม่เพียงเท่านี้ควันบุรี่ยังส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านอีกด้วย ปีใหม่ 2566 นี้ หากเลิกสูบได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะ 1 มวน ส่งผลกระทบกับคนอีกหลายคน โดยเฉพาะคนในครอบครัว”
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า “สำหรับควันบุหรี่ทั้งมือสองและมือสามหลายคนไม่ทราบว่ามันก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ส่วนใหญ่เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ จะมีอาการภูมิแพ้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม ในช่วงที่ใหม่ที่หลายครอบครัวจะเดินทางกลับบ้านกันจึงเป็นโอกาสรณรงค์งดสูบบุหรี่ไปด้วย การรณรงค์ต่าง ๆ ที่ สสส. และภาคีเครือข่ายพยายามสื่อสารออกไป มีหลายครอบครัวเริ่มเห็นความสำคัญมากขึ้น มีชุมชนต้นแบบ มีมาตรการท้องถิ่นเข้าไปประกาศนโยบายการดูแลพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลให้ปลอดจากควันบุหรี่ด้วย
สสส. ร่วมสานพลังภาคีเครือข่ายสนับสนุนให้ทุกคนรู้เท่าทันพิษภัยของบุหรี่ ด้วยการสื่อสารข้อมูลและองค์ความรู้ที่ถูกต้อง รณรงค์สร้างค่านิยมไม่สูบบุหรี่ ลดการเพิ่มจำนวนนักสูบหน้าใหม่ ขับเคลื่อนให้สังคมไทยเป็นสังคม ‘ไร้ควันบุหรี่’ เพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน