กรมสุขภาพจิตเผยปัญหาสุขภาพจิตคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป

ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


กรมสุขภาพจิตเผยปัญหาสุขภาพจิตคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป  thaihealth


แฟ้มภาพ


รมสุขภาพจิต เผยสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป พบป่วยประมาณ 7 ล้านกว่าคน  สาเหตุมาจาก 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ โรคซึมเศร้า โรคจิตเภท วิตกกังวล ความบกพร่องทางสติปัญญา และผลแทรกซ้อนมาจากสิ่งเสพติด  คาดในอนาคตปัญหาจะมากขึ้น โดยเฉพาะจากเหล้า ยาเสพติด   ให้ศูนย์สุขภาพจิต 13 ศูนย์ทั่วไทยเร่งส่งเสริมป้องกันทุกกลุ่มวัย  เพื่อมุ่งตอบโจทย์ให้คนไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0


นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ผลจากการสำรวจสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิต เมื่อปี 2556  ซึ่งสำรวจทุก 5  ปี พบว่าคนไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีปัญหาสุขภาพจิตประมาณ 7 ล้านคน  พบใน  5  กลุ่มโรค ประกอบด้วย กลุ่มโรคซึมเศร้า  กลุ่มที่มีภาวะจิตผิดปกติซึ่งเรียกว่าโรคจิตเภท   กลุ่มที่มีความวิตกกังวล  กลุ่มที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาหรือพิการทางสมองตั้งแต่กำเนิด และกลุ่มที่มีปัญหาแทรกซ้อนจากสิ่งเสพติด เช่น แอลกอฮอล์ ยาเสพติด เมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อปี 2551 พบปัญหาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคม คาดว่าแนวโน้มในอนาคตปัญหาสุขภาพจิตจะมีมากขึ้น  โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดและแอลกอฮอล์


ทั้งนี้  กรมสุขภาพจิตได้ให้ศูนย์สุขภาพจิต ทั้ง 13  ศูนย์ทั่วประเทศ ร่วมกับเขตสุขภาพต่างๆ ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมป้องกันปัญหาสุขภาพจิต เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพจิตดี  มีความสุข รองรับประเทศไทยยุค 4.0   ซึ่งเป็นสังคมที่มีความเจริญมีเทคโนโลยีความทันสมัยด้านต่างๆ  โดยเน้นการตรวจคัดกรองหาผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต  เพื่อให้ได้รับการดูแลส่งเสริมอย่างเหมาะสมครอบคลุมทุกกลุ่มวัย การให้ความรู้สร้างความตระหนักและความเข้าใจต่อปัญหาสุขภาพจิต


รวมทั้งการใช้องค์ความรู้ด้านสุขภาพจิตแก้ปัญหาโรคเรื้อรังด้วย เช่น มีผลการวิจัยของ รพ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อปี 2558-2559 พบว่าการใช้กระบวนการทางจิตวิทยาคือการให้คำปรึกษาแบบมีทิศทาง สามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มีปัญหาควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ ซึ่งมีประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วย มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้สูงถึงร้อยละ 74  ซึ่งผลวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโรคอื่นได้ เช่น โรคเบาหวาน ผู้ป่วยจิตเวช วัณโรค โรคเอชไอวี เป็นต้น เป็นผลดีต่อการแก้ปัญหาสาธารณสุขของประเทศได้ โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการรักษาให้ผลดียิ่งขึ้น

Shares:
QR Code :
QR Code