กรมสุขภาพจิตระดมผู้เชี่ยวชาญถกนิยาม’สุขภาพ’กรณีทำแท้ง

 

 

นพ.อภิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับนักวิจัยที่จะทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เบื้องต้นได้มอบหมายให้ พญ.เบญจพร ปัญญายงค์ ซึ่งเป็นแพทย์นักวิจัยภายใต้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่แพทย์จำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพราะสังคมไทยยังมีทั้งกลุ่มที่ยอมรับได้และยอมรับไม่ได้ จึงจำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และเปิดให้เข้าร่วมปรึกษาหาแนวทางและตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับระเบียบและแนวทางในการดำเนินงาน” นพ.อภิชัยกล่าว

 

อนึ่ง ปัจจุบันกฎหมายเกี่ยวกับการทำแท้งในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 305 กำหนดเงื่อนไขในการทำแท้งโดยถูกต้องตามกฎหมายไว้เพียง เพื่อสุขภาพของแม่ เนื่องจากหากปล่อยให้ตั้งครรภ์ต่อไปจะส่งผลต่อร่างกายของแม่ได้และกรณีที่ถูกข่มขืน ขณะที่แพทยสภามีข้อเสนอควรครอบคลุมในประเด็นอื่นๆ จึงได้ออกข้อบังคับตามมาตรา 305 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2548 ดังนี้ การยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ตามมาตรา 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญานั้น จะกระทำได้เมื่อหญิงตั้งครรภ์นั้นยินยอม แพทย์ผู้กระทำการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ตามข้อบังคับนี้ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมาย และการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ต้องทำตามเงื่อนไขดังนี้ 1.เป็นกรณีที่จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากปัญหาสุขภาพทางกายของหญิงตั้งครรภ์ หรือ 2.เป็นกรณีที่จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากปัญหาสุขภาพทางจิตของหญิงตั้งครรภ์ซึ่งจะต้องได้รับการรับรอง หรือเห็นชอบจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่มิใช่ผู้กระทำการยุติการตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 คน