ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

แฟ้มภาพ

กทม. มีนโยบายการให้วัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้ออุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าแก่เด็กเริ่มที่อายุ 2 เดือน 4 เดือน และอาจให้อีกครั้งตอนอายุ 6 เดือน โดยขึ้นกับชนิดของวัคซีน นอกจากนี้ กทม. เตรียมแนวทางการจัดหาวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าให้แก่เด็กเล็กฟรี 8,000 ชุด คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้

นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า โรคอุจจาระร่วงถือเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นกับประชาชนจำนวนมากโดยจากสถิติในกรุงเทพฯเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงตั้งแต่ปี 2556 จำนวน 13,981 ราย ปี 2557 จำนวน 12,261 ราย ปี 2558 จำนวน 10,975 ราย ปี 2559 จำนวน 14,008 ราย และปี 2560 จำนวน 14,171 ราย ส่วนในปี 2561 จนถึงเดือนกันยายนพบ 13,377 ราย ทั้งนี้สิ่งที่ กทม.เฝ้าระวังคือโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อโรคโรต้าที่มักเกิดใน เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และพบมากสุดในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ซึ่งไวรัสชนิดดังกล่าวมักเข้าสู่ร่างกายผ่านการนำมือจับอาหาร หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าปากส่งผลให้ผู้ป่วยมีไข้ อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้อง ซึ่งในเด็กจะมีอาการรุนแรงกว่าผู้ใหญ่และส่งผลทำให้เสียชีวิตได้

โดยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวจะพบในหน้าหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมและสามารถติดโรคได้มากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งในปี 61 นี้ มีฝนตกต่อเนื่องคาดการณ์ว่าจะมีอากาศเย็นกว่าทุกปีส่งผลให้อาจมีการระบาดของไวรัสโรต้าเพิ่มขึ้น การป้องกันโรคมุ่งเน้นในกลุ่มเสี่ยงคือเด็กเล็กเนื่องจากผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสโรต้ามักมีอาการไม่รุนแรงหรืออาจไม่แสดงอาการใด ๆ โดย กทม. มีนโยบายการให้วัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้ออุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าแก่เด็กเริ่มที่อายุ 2 เดือน 4 เดือน และอาจให้อีกครั้งตอนอายุ 6 เดือน โดยขึ้นกับชนิดของวัคซีน ซึ่งเมื่อได้รับวัคซีนดังกล่าวเด็กเล็กจะปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโรต้าต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 5 ขวบ โดยขณะนี้ กทม. เตรียมแนวทางการจัดหาวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าให้แก่เด็กเล็กฟรี 8,000 ชุด เป็นแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้.