กทม.เผย2ปี ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น

กทม.เผย 2 ปียอดคนชราเพิ่มขึ้น พบอายุเกิน 100 ปี สูงกว่า 4 พันคน เหตุคุณภาพชีวิต-สาธารณสุขดีขึ้น "สำนักอนามัย" ห่วงคนแก่นอนติดเตียง ดูแลเป็นพิเศษ


กทม.เผย ยอดผู้สูงอายุสูงขึ้น ห่วงคนแก่นอนติดเตียง thaihealth


แฟ้มภาพ


นายฤกษ์ดี วิศาลอรรถกิจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชำนาญการ สำนักงานปกครองและทะเบียน สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า จากข้อมูลตัวเลขสถิติจำนวนประชากรผู้สูงอายุในพื้นที่กรุงเทพฯ ของสำนักงานปกครองฯ ล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 พบว่ามีจำนวนมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆมา โดยผู้ที่มีอายุ 100 ปี มีจำนวน 601 คน แบ่งเป็นเพศชาย 279 คน เพศหญิง 322 คน และประชากรที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มีจำนวน 4,146 คน เพศชาย 1,825 คน และเพศหญิง 2,321 คน รวมถึงยังมีประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไปที่ยังใช้ตัวเลขปีเกิดตามปฏิทินจันทรคติไทยอีก 762 คน ขณะที่สถิติจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไปของปี 2558 พบว่าประชากรอายุ 100 ปี มีจำนวน 589 คน เป็นเพศชาย 264 คน เพศหญิง 325 คน ประชากรอายุมากกว่า 100 ปี มีจำนวน 4,111 คน เพศชาย 1,806 คน เพศหญิง 2,305 คน และมีประชากรอายุมากกว่า 100 ปี ที่ยังใช้ตัวเลขปีเกิดตามปฏิทินจันทรคติไทยอีก 762 คน


"สาเหตุที่ประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไปมีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะสถิตการเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุลดน้อยลง ประกอบกับตัวเลขอายุของผู้สูงอายุในวัย 90 ปี ขยับสูงขึ้นทำให้ตัวเลขผู้สูงอายุ 100 ปีขึ้นไปมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น" นายฤกษ์ดี กล่าว


ด้าน นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพฯมีประชากรในวัยสูงอายุเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในด้านสาธารณสุขที่ดีขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่ยืนยาวมากยิ่งขึ้น สำหรับตัวเลขผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้มีประมาณ 800,000 คน ในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุที่สามารถออกมาพบปะสังคม ช่วยเหลือสังคม หรือสามารถออกจากบ้านมาจับจ่ายซื้อของ หรือเดินเหินเองได้ประมาณ 92 เปอร์เซ็น ขณะที่ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หรือนอนติดเตียงต้องการผู้ดูแลอยู่ที่บ้านมีประมาณ 2 เปอร์เซ็น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ก็คือกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้


ทั้งผู้สูงอายุติดบ้านและติดเตียง ต้องการผู้ดูแลที่มีความรู้ความเข้าใจผู้สูงอายุเหล่านี้เป็นพิเศษ ทำให้ในอนาคตอาจได้รับผลกระทบในเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยสูงอายุติดเตียงที่ต้องเพิ่มมากขึ้นจากสภาพสังคมสูงอายุที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อรองรับผู้สูงอายุที่สามารถออกมาสู่สังคมเพิ่มขึ้นด้วย อาทิ อุปกรณ์ ราวจับ บันไดขึ้นลง หรือจัดหาสถานที่พักผ่อน เพื่อให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจำนวนมากกลุ่มนี้ดีขึ้น


นพ.ชวินทร์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา สำนักอนามัย ได้มีโครงการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน อีกทั้งยังรณรงค์เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมมาเป็นอาสาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในปีนี้สำนักอนามัยได้ฝึกอบรมไปแล้วกว่า 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มีจิตอาสาหรือเป็นลูกหลานที่ต้องการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ติดบ้าน ทั้งนี้ ในอนาคตกรุงเทพฯจะต้องกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ


กทม.จึงมีความเป็นห่วงกลุ่มผู้สูงอายุติดบ้านหรือติดเตียงเหล่านี้เป็นพิเศษ เพราะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงต้องการให้คนกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ก็ต้องการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุกลุ่มที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นสามารถช่วยเหลือสังคมได้ต่อไป


 


 


ที่มา: www.bangkokbiznews.com

Shares:
QR Code :
QR Code