กทม.เผย สถานการณ์ "สุนัขบ้า" ในกรุงเทพยังคุมได้
ที่มา : เดลินิวส์
ภาพจากเดลินิวส์
กรุงเทพฯ ยังไม่น่าห่วง ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าใกล้ชิด เดินหน้าทุกมาตรการสร้างเมืองปลอดโรคในปี 2563พร้อมสั่งกวดเข้มดูแลค่าเฟ่สัตว์เลี้ยงธุรกิจใหม่
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าที่มีรายงานการแพร่ระบาดในปี 2561 เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีการระบาดในพื้นที่จังหวัดเชียงรายนั้น สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังถือเป็นพื้นที่ที่สถานการณ์คงตัว มีการควบคุมเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้น โดยการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ จำนวน 4ตัว และในปี 2560 ที่ผ่านมานั้น มีรายงานการพบโรคพิษสุนัขบ้ากรุงเทพมหานคร ทั้งหมด 47 ตัว แบ่งเป็นสุนัข 45 ตัว แมว 2 ตัว แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าแต่อย่างใด ซึ่งรายงานในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าครั้งสุดท้ายที่เขตบางนา จำนวน 1 ราย ในปี 2559 อย่างไรก็ตามโรคพิษสุนัขบ้า ถือเป็นโรคจากสัตว์สู่คนที่ร้ายแรง ส่งผลต่อชีวิต ซึ่งทั้งคนและสัตว์ ที่ได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้านั้น จะเกิดผลต่อร่างกาย ทำให้เสียชีวิตทุกราย ซึ่งกทม.ก็พยายามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยมีการตั้งเป้าหมายเป็นเมืองที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าให้ได้ในปี 2563 ดังนั้น จึงเร่งการรณรงค์ให้ประชาชน ดูแลสัตว์เลี้ยง และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามกำหนดอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ สัตว์เลี้ยงที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้านั้น นอกจากสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขและแมวแล้ว ปัจจุบันประชาชนยังนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ อาทิ กระต่าย กระรอก หนู แม่น ซึ่งถือเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งสิ้น ดังนั้น ประชาชนจะต้องนำสัตว์เลี้ยงดังกล่าว ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำทุกปีเช่นกัน
โดยกทม.จะจัดหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยง กระจายไปในทุกเขตทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งในแต่ละเขตจะหมุนเวียนสถานที่ตั้งหน่วยไปตามชุมชนต่างๆ เพื่อให้ประชาชนนำสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันอย่างต่อเนื่องและรับบริการใกล้บ้าน โดยกทม.ให้บริการฉีดฟรี ไม่จำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยง จึงขอให้ประชาชนนำสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป และไม่อยู่ระหว่างตั้งท้อง ไปรับบริการฉีดวัคซีนได้
นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังเกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ ประเภทคาเฟ่สัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นรูปแบบร้านจำหน่ายอาหาร ที่มีสัตว์เลี้ยงประเภทต่างๆ ให้ลูกค้าสามารถเข้าไปชม คลุกคลีด้วยได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งธุรกิจดังกล่าว ต้องมีการดูแลควบคุมอย่างใกล้ชิด โดยตนได้สั่งการให้สำนักอนามัย และสำนักงานเขตส่งเจ้าหน้าที่ดูแลกวดขันธุรกิจคาเฟ่สัตว์เลี้ยง ให้ดำเนินการกิจถูกต้อง ตามพรบ.สาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยในการใช้บริการมากที่สุดอีกด้วย