ไทยเสี่ยง ‘พิษสุนัขบ้า’ หวนระบาด

ที่มา : เว็บไซต์กระทรวงสาธารณะสุข


จากการตรวจวิเคราะห์หัวสุนัขเพื่อหาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ พบการติดเชื้อจำนวนมาก ทั้งใน กทม. ปริมณฑล และหลายจังหวัดทั่วประเทศ


ไทยเสี่ยง 'พิษสุนัขบ้า' หวนระบาด thaihealth


แฟ้มภาพ


ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์โรคติดเชื้อ โรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะที่อัตราการป่วยและเสียชีวิตในมนุษย์ที่มีการตรวจยืนยันก็พบว่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่น่ากังวลคือไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีคนเสียชีวิต หรืออาการคล้ายโรคพิษสุนัขบ้า แต่ไม่นับรวมว่าเป็นโรคจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจากการที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พยายามจัดอันดับจังหวัดปลอดโรคพิษสุนัขบ้า จนเกิดการแข่งขัน ไม่อยากเสียชื่อ จึงไม่รายงานโรค


ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ที่ยังเป็นปัญหาคือ ประชาชนคิดว่าไทยสามารถควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าได้แล้ว จึงเข้าใจว่าไม่มีโรคดังกล่าวอยู่ในประเทศ เมื่อถูกสุนัขกัดจึงไม่ไปฉีดวัคซีน และมองว่าการควบคุมโรคไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง ไม่ยอมทำหมันสุนัข ไม่พาไปฉีดวัคซีน ผลักให้เป็นภาระของภาครัฐอย่างเดียว ขณะที่แพทย์มองว่าโรคนี้เป็นโรคโบราณ ฉีดเฉพาะวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างเดียวโดยไม่ฉีดสารสกัดน้ำเหลือง ทั้งที่กว่าวัคซีนจะสามารถสร้างภูมิต้านทานต้องใช้เวลานานถึง 14 วัน ซึ่งในช่วงนี้ต้องฉีดสารสกัดจากน้ำเหลืองเข้าที่แผลเพื่อทำลายเชื้อให้มากที่สุด หากไม่ฉีดในช่วงวิกฤติ 14 วันแรกก็จะมีช่องโหว่ ทำให้ไวรัสหลุดเข้าไปในเส้นประสาท เมื่อหลุดเข้าไปแล้วไวรัสจะอยู่นิ่งๆ โดยไม่แสดงอาการ 3-4 สัปดาห์ ช่วงนี้จะรักษาไม่ได้ และเมื่อเริ่มมีอาการจะเสียชีวิตภายใน 1-2 สัปดาห์ กลายเป็นว่าแพทย์ให้การรักษาไม่ครบ อาจจะเกิดเรื่องขึ้นมาอีก


"โรคพิษสุนัขบ้าขณะนี้กลับมาเยอะมากจากที่มีการตรวจพบในแล็บของจุฬาฯ สถานการณ์เหมือนกับประเทศจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่สามารถควบคุมได้จากนั้นก็มาโผล่อีกใน 5 ปีถัดมา มีผู้ป่วย 5-6 พันราย เสียชีวิตทั้งหมด ไทยกำลังตามรอยประวัติศาสตร์จีน และขณะนี้เราเปิดประเทศ ทุกอย่างเข้ามาหมด" ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code