ไทยเดินหน้า ‘ศูนย์กลางอารยสถาปัตย์’ แห่งอาเซียน
สสส. หนุนภาครัฐ-เอกชน ร่วมขับเคลื่อนเดินหน้าประเทศไทยสู่ความเป็นเมืองศูนย์กลางอารยสถาปัตย์แห่งประชาคมอาเซียน ภายใน 5 ปี พร้อมโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ – ผู้สูงอายุ
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน เสวนา "โอกาสประเทศไทย: เมืองศูนย์กลางอารยสถาปัตย์แห่งประชาคมอาเซียน" Thailand Opportunity: Universal Design Hub of the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) Community โดย รศ. ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานกล่าวในพิธีเปิดงาน ว่า ประเทศไทยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ จำนวนไม่น้อยถูกออกแบบ สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อคนพิการ อาทิ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร เครื่องพิมพ์อักษรเบรลล์ ฯลฯ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ และยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผู้สูงอายุด้วยการใช้เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะพัฒนาสังคมไทยให้เข้มแข็ง โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 5 ประเภท ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายสัญลักษณ์ และบริการข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปอย่างมีศักดิ์ศรีและเท่าเทียมกัน รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ในปี 2558
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า แนวความคิด “อารยสถาปัตย์” การออกแบบเพื่อคนทุกคน (Universal Design) เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในประเทศชั้นนำ เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น หรือ แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศสิงคโปร์ ที่มีการปรับสภาพแวดล้อมทางกายภาพและจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน ในขณะที่หลายหน่วยงานในประเทศไทยก็หันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง ส่วนของสสส.ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ฯ ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานใน 4 เรื่อง คือ 1.การสร้างองค์ความรู้และพัฒนาเครือข่ายในกลุ่มเยาวชน นักศึกษา ผู้บริหารองค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ภาครัฐ และเอกชน 2.การผลักดันนโยบาย ระเบียบข้อบังคับร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ 3. การสื่อสารสาธารณะ เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนักของสังคม และ 4. การพัฒนากลไกการการติดตาม และผลักดันขยายผลนโยบายการออกแบบเพื่อคนทุกคน จนทำให้เกิดองค์ความรู้ งานวิชาการต่างๆ ได้แก่ การจัดทำหลักสูตร และคู่มือการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักศึกษาและสถาปนิก รวมถึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถนำผลงานเหล่านั้นไปกำหนดนโยบาย กฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โดยมีภาคประชาสังคมเป็นอีกแรงที่ช่วยขับเคลื่อนงานด้านนี้อย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายกฤษนะ ละไล ผู้รับผิดชอบ “โครงการพัฒนาและขับเคลื่อนอารยสถาปัตย์” กล่าวว่า โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องอารยสถาปัตย์ หรือหลักการออกแบบที่เป็นมิตรกับคนทั้งมวลให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะการกระตุ้น สร้างแรงจูงใจ แก่ผู้นำองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญจนเกิดผลทางการปฏิบัติ และเกิดการประสานความร่วมมือของทุกส่วน ในด้านการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ และผู้พิการทุกคนให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ที่สำคัญเป็นการกระตุ้น และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคมเห็นความจำเป็นของอารยสถาปัตย์ เพื่อให้คนทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย เข้าถึงได้ ใช้ประโยชน์ได้ในตึกอาคาร สถานที่ บริการสาธารณะ และระบบขนส่งมวลชนทุกรูปแบบ โดยสะดวก ปลอดภัย ทันสมัย เป็นธรรม ทั่วถึง เท่าเทียม เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ร่วมกันขับเคลื่อนเดินหน้าประเทศไทยสู่ความเป็นเมืองศูนย์กลางอารยสถาปัตย์แห่งประชาคมอาเซียน ภายใน 5 ปีจากนี้ไป
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแสดงนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย ตัวอย่างเช่น วีลแชร์ไฟฟ้า และมีการเสวนาของบุคคลระดับแนวหน้าของไทย อาทิ มิสเตอร์มิเคล เหมนิธิวินเธอร์ เอกอัครราชฑูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ดร.นริศ ชัยสูตร รองปลัดกระทรวงการคลัง ดร.วีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นพ.บรรลุ ศิริพานิช สมาคมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ภาคเอกชน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้แทนองค์กรคนพิการ ทั้งระดับภูมิภาคและในประเทศไทย
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข