ใช้ PDA ถี่เสี่ยงหัวแม่โป้งอักเสบ

ผู้เชี่ยวชาญเตือน! รุนแรงอาจฉีดยา ผ่าตัด ได้

 ใช้ PDA ถี่เสี่ยงหัวแม่โป้งอักเสบ

          ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า  การใช้คอมพิวเตอร์พกพาแบบไร้สาย หรือพีดีเอ พิมพ์อีเมล์ ข้อความสั้น หรือท่องเว็บเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เส้นเอ็นที่นิ้วหัวแม่โป่งที่ใช้กดแป้นพิมพ์เกิดการอักเสบได้

 

          อุปกรณ์พีดีเอซึ่งรู้จักกว้างขวางในชื่อยี่ห้อ แบล็กเบอร์รี ถูกออกแบบให้ใช้นิ้วหัวแม่โป้งในการพิมพ์แทนที่จะใช้นิ้วมือ  นิ้วโป้งจึงอาจเกิดอาการเจ็บขึ้นได้  เพราะเป็นนิ้วที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะนี้

 

          คริสเตน  โครว์ นักกายภาพบำบัดเกี่ยวกับมือประจำโรงพยาบาลโบมอนต์ เมืองโรยัลโอ๊ค มลรัฐมิชิแกน บอกว่า  แบล็กเบอร์รีและพีดีเอยี่ห้ออื่นๆ สามารถทำให้เส้นเอ็นอักเสบได้ เพราะต้องใช้นิ้วโป้งกับพื้นที่เล็กๆ เป็นเวลานานๆ พวกวัยรุ่นคงไม่มีปัญหา แต่คนที่มีอายุ 40 หรือ 50 ปีขึ้นไปอาจเกิดการบาดเจ็บได้

 

          มาร์ก็อต  มิลเลอร์ ประธานกลุ่มสุขอนามัยการทำงาน สมาคมกายภาพบำบัดอเมริกัน บอกว่า คีย์บอร์ดของพีดีเอมีขนาดเล็กมาก  นิ้วโป้งเป็นนิ้วที่คล่องแคล่วน้อยที่สุด ถ้าถูกใช้งานหนักก็อาจเจ็บนิ้วได้ ผู้คนไม่เพียงใช้พีดีเอในที่ทำงานเท่านั้น แต่ยังใช้ติดต่อกับญาติสนิทมิตรสหายตลอดเวลา

 

          อาการที่พบก็คือ ปวดและชาที่นิ้วโป้งและข้อมือ คนส่วนใหญ่ถึงรู้สึกเจ็บนิ้วแต่ก็ยังใช้ต่อไป

 

          คำแนะนำคือ เมื่อรู้สึกเจ็บนิ้วให้หยุดพักสักครู่ และพยายามหันไปใช้คอมพิวเตอร์ให้มากขึ้น อย่าจดเบอร์โทรศัพท์ไว้ในพีดีเอ และพยายามตอบอีเมล์โดยใช้คำว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เท่านั้น

 

          ดร.ชาร์ลส์  เลนเบอร์รี  ผู้เชี่ยวชาญด้านมือและข้อมือ แห่งสถาบันร็อธแมน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโทมัสเจฟเฟอร์สัน และอาจารย์ด้านการผ่าตัดกระดูก ข้อ และเอ็น แห่งคณะแพทยศาสตร์เจฟเฟอร์สัน ในเมืองฟิลาเดลเฟีย บอกว่า การใช้เฝือกสามารถช่วยผ่อนคลายแรงกดที่นิ้วโป้งและข้อต่างๆ ได้ ทำให้คลายปวด

 

          ทั้งโครว์และเลนเบอร์รีบอกว่า คนเราควรดูแลท่าทางในการทำงานของตัวเองให้ถูกต้อง ตั้งแต่ในสำนักงานไปจนถึงบนโต๊ะกินอาหารที่บ้าน มิฉะนั้นจะเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบหรือข้อมืออักเสบ การใช้น้ำแข็งประคบก็ช่วยผ่อนคลายอาการได้  และเมื่อหายแล้วก็ควรใช้การบริหารร่างกายเข้าช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง

 

          ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นต้องฉีดยาหรือผ่าตัด

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

update : 07-07-51

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code