ใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงอาหาร

ที่มา: มติชน


ใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงอาหาร thaihealth


แฟ้มภาพ


กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ชวนเลือกใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงประกอบอาหาร เพื่อให้คนไทยได้รับไอโอดีนที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย


          พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลระหว่างเป็นประธานเปิดงานรณรงค์เนื่องใน "วันไอโอดีนแห่งชาติ" ว่า โรคขาดสารไอโอดีน ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย เนื่องจากการขาดไอโอดีน เป็นสาเหตุหนึ่งของความพิการทางสติปัญญา แต่สามารถป้องกันได้ จากสถานการณ์เฝ้าระวังโรคขาดสารไอโอดีนในกลุ่มเสี่ยงของประเทศไทย ยังพบการขาดสารไอโอดีนในหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ พื้นที่ขาดสารไอโอดีน คือ พื้นที่ที่มีค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะหญิงตั้งครรภ์น้อยกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่ง ปี 2561 พบค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะหญิงตั้งครรภ์ 131.7 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์ หากขาดไอโอดีนรุนแรง อาจทำให้แท้ง ทารกพิการแต่กำเนิด ปัญญาอ่อน ร่างกายแคระ แกร็น ในผู้ใหญ่หากขาดไอโอดีน จะทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เฉื่อยชา อ่อนเพลีย และประสิทธิภาพการทำงาน ลดลง


          การป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนสามารถทำได้ง่ายๆ คือ เลือกบริโภคอาหารทะเล เช่น ปลาทู หอย กุ้ง ปู สาหร่ายทะเล ฯลฯ อย่างไรก็ตาม เกลือทะเลมีไอโอดีนน้อยมากไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะร่างกายต้องการไอโอดีนเพียงวันละน้อย แต่ต้องการทุกวัน ไอโอดีนจึงจำเป็นสำหรับทุกมื้อ ทุกวัน และทุกวัย ดังนั้น การปรุงประกอบอาหารจึงจำเป็นต้องเลือกเกลือเสริมไอโอดีนวันละไม่เกิน 1 ช้อนชา นอกจากนี้ การเลือกซื้อเกลือเสริมไอโอดีนให้สังเกตฉลากที่มี คำว่า "เกลือบริโภคเสริมไอโอดีน" บนซองเกลือ และมีเลข อย.กำกับบนซองเกลือทุกครั้ง


          ปัจจุบัน ประชาชนนิยมกินอาหารนอกบ้าน หรือซื้ออาหารสำเร็จรูปมาบริโภคมากขึ้น ปีนี้ กรมอนามัยจึงรณรงค์ขอความร่วมมือพ่อครัว แม่ครัว ผู้ปรุงประกอบอาหาร เลือกใช้เกลือเสริมไอโอดีน และเครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีนในการปรุงประกอบอาหารทุกมื้อ

Shares:
QR Code :
QR Code