โรคและภัยสุขภาพปี 59

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคได้เผยถึงผลการพยากรณ์โรค และภัยสุขภาพปี 2559 ว่าโรคที่ต้องเฝ้าระวังแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ โรคติดต่อ และโรคไม่ติดต่อ


โรคและภัยสุขภาพปี 59 thaihealth


แฟ้มภาพ


ในส่วนของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังในปี 2559 นั้นมี 5 โรค คือ 1.โรคไข้เลือดออก ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ป่วยประมาณ 1.6 แสนคน มากกว่าการระบาดใหญ่เมื่อปี 2556 ที่มีผู้ป่วย 1.4 แสนคน โดยอาจจะมีผู้ป่วยสูงเดือนละ 5-7 พันคน ช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.


สำหรับผู้ป่วยไข้เลือดออกจะกระจายอยู่ทั่วไป แต่ในจุดเสี่ยงมาก 266 อำเภอใน 56 จังหวัด อาทิ จ.ระยอง ชลบุรี เชียงราย อุบลราชธานี น่าน สงขลา นครราชสีมา เป็นต้น สำหรับโรคติดต่อลำดับ 2 ได้แก่ โรคอหิวาตกโรค เมื่อปีที่ผ่านมามีผู้ป่วย 166 คนใน 12 จังหวัด โดยเฉพาะที่ จ.ระยอง สงขลา และตาก ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่แถบชายฝั่งทะเล และชายแดน โดยเฉพาะแหล่งกระจายอาหารและพฤติกรรมรับประทานอาหารไม่ปรุงสุก


อันดับ 3 โรคติดต่อที่เฝ้าระวังคือโรคไข้กาฬหลังแอ่น ซึ่งพบว่าในปี 2558 มีผู้ป่วย 28 คน เสียชีวิต 12 คน มากที่สุดในรอบ 5 ปี ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 24 คน เมียนมา 3 คน และกัมพูชา 1 คน ทั้งนี้ในปี 2559 มีการประเมินว่าพบความเสี่ยงของโรคใน 14 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ตาก กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สระแก้ว ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สตูล สงขลา กระบี่ ปัตตานี และยะลา ส่วนโรคติดต่ออันดับ 4 คือโรคไข้หวัดใหญ่


โดยในปี 2558 มีผู้ป่วย 69,798 คน เสียชีวิต 38 คน ในปี 2559 คาดมีผู้ป่วย 72,000 คน ในช่วงฤดูหนาวระหว่าง ม.ค.มี.ค. และช่วงปลายฝนต้นหนาว ส.ค.-พ.ย. อาจมีผู้ป่วยเดือนละ 5,000-8,000 คน และสุดท้ายอันดับ 5 โรคมือเท้าปาก ในปี 2558 พบผู้ป่วย 37,330 คน คาดปี 2559 จะมีผู้ป่วย 70,000 คน โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนเดือน มิ.ย.-ก.ค. อาจมีผู้ป่วยสูงเดือนละ 10,000 คน ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการป้องกันให้ประชาชนปลอดภัยจากโรคและภัยสุขภาพดังกล่าวแล้ว


โดยเฉพาะการตอบโต้โรคภัยอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มีการพัฒนาศักยภาพหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและ สนง.ป้องกันควบคุมโรคทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งมีการพัฒนานักระบาดวิทยาภาคสนาม และพัฒนาทีมสอบสวนโรคสหสาขาวิชาชีพเคลื่อนที่เร็ว แต่กระนั้นคงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัด โรงเรียน และประชาชนทั่วไปเพื่อป้องกันและควบคุมโรค รวมถึงลดการระบาดของโรคที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ทุกๆ ชีวิตปลอดภัยจากโรคร้าย


 


 


ที่มา : เว็บไซต์กรมอนามัย

Shares:
QR Code :
QR Code