โรคมะเร็งไม่น่ากลัว ถ้ารักษาอย่างถูกวิธี

สสส. ร่วมกับมะเร็งวิทยาสมาคมฯ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จัดแถลงข่าว ‘โรคมะเร็ง…กับบุหรี่’ พร้อมทีมแพทย์ พาเยี่ยมชมสถานที่เครื่องฉายรังสี ห้องให้ยาเคมีบำบัดและให้กำลังใจผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา หน่วยมะเร็งวิทยา ตึกว่องวานิช ชั้น 6 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จัดงานแถลงข่าว ‘โรคมะเร็ง…กับบุหรี่’ และเยี่ยมชมการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง จากพิษบุหรี่โดย รศ.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ นายกสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย และเลขาธิการศูนย์โรคมะเร็งครบวงจรแห่งโรคบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวตอนรับ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคยาสูบของประเทศไทย และกล่าวถึงการสูบบุหรี่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อีกทั้งเป็นสาเหตุของการตายจากโรคมะเร็งถึง 30% และความเสี่ยงที่เกิดจากการสูบบุหรี่มือสองเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปอด 20-30%

รศ.นพ.วิโรจน์  กล่าวว่า ในปัจจุบันพบผู้ป่วยมะเร็งปอด ที่เป็นผู้ป่วยใหม่ปีละราว 2 หมื่นราย นอกจากมะเร็งปอดแล้วยังพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีโรคแทรกซ้อนด้วย ทำให้ผู้ป่วยเกิดความทุกข์ทรมานกว่าปกติ และยังทำให้ร่างกายตอบสนองการรักษาได้ไม่ดีอีกทั้งยังทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติจากสถานการณ์ดังกล่าว ทุกฝ่ายจึงจำเป็นต้องช่วยกันผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. …. ที่กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายกว่า 700 องค์กรร่วมกับประชาชนจากทุกสาขาอาชีพกว่า 1 แสนคนร่วมสนับสนุน หากกฎหมายมีผลบังคับใช้จะช่วยให้มาตรการลดผู้สูบบุหรี่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รศ.นพ.วิโรจน์ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันในหมู่วัยรุ่น 10% มีความเสี่ยงที่จะเริ่มสูบบุหรี่ โดยมีแรงจูงใจจากโฆษณา ถ้าเราไม่สูบบุหรี่ตั้งแต่อายุน้อยๆ จะมีโอกาสติดน้อยมาก แต่ถ้าเริ่มสูบจากอายุน้อยๆ ก็จะติดได้เร็วขึ้น และมีคนไข้โรคมะเร็งปอดอายุตั้งแต่ยี่สิบกว่าๆ ซึ่งนานๆ ทีจะเจอ ส่วนอายุต่ำกว่ายี่สิบก็มีแต่เป็นส่วนน้อย จริงๆ แล้วทางสังคมไทย มีการรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องบุหรี่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก แม้ว่าจะมีจำนวนคนสูบบุหรี่ลดลง แต่ก็ยังไม่ดีที่สุด เพราะยังมีกว่า 20% ที่สูบบุหรี่อยู่ ซึ่งเราหวังว่า เมื่อเวลาผ่านไปคนที่สูบบุหรี่น่าจะลดลงจนเกือบไม่มีเลย ถือเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุด

ผศ.นพ.ชลเกียรติ ขอประเสริฐ หัวหน้าหน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ให้ข้อมูลว่า โรคมะเร็งปอดที่เจอในคนสูบบุหรี่จะมีอาการรุนแรงกว่าคนที่ไม่สูบ โรคมะเร็งสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าเจอในระยะเริ่มต้น และต้องได้รับความร่วมมือในการรักษาจากผู้ป่วยด้วย ผู้ป่วยโรคมะเร็งถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะเสียชีวิตได้ และสิ่งแวดล้อมก็เป็นปัจจัยในการเกิดโรคมะเร็งได้เช่นกัน

ทั้งนี้ได้นำทีมสื่อมวลชนเยี่ยมชมสถานที่เครื่องฉายรังสี ห้องให้ยาเคมีบำบัด และให้กำลังใจผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มีเครื่องฉายรังสีทั้งหมด 6 เครื่อง ระบบการฉายรังสีจะถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ในหนึ่งวันจะสามารถฉายรังสีให้กับผู้ป่วยได้ประมาณ 300-400 คน สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ต่างจังหวัดก็สามารถไปรักษาที่ศูนย์มะเร็งทั่วประเทศได้ 

เรื่องโดย : อนุชศรา บุตรณรังษี Team Content www.thaihealth.or.th