“โรคพิษสุนัขบ้า”ป้องกันได้ด้วยนำสัตว์มารับวัคซีน
ที่มา : สำนักข่าว กรมข่าวประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
จังหวัดสมุทรปราการขอความร่วมมือประชาชนนำสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมารับวัคซีน เพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่กำลังระบาด
นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ตามที่ กรมปศุสัตว์ ได้ประกาศเขตโรคระบาดพิษสุนัขบ้าไปแล้ว 13 จังหวัด เป็นพื้นที่สีแดง คือ จังหวัดสุรินทร์ ชลบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา น่าน บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย ร้อยเอ็ด สงขลา ระยอง ตาก และศรีสะเกษ ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังโรคระบาดพิษสุนัขบ้าในอีก 42 จังหวัด ซึ่งจัดให้อยู่ในพื้นที่สีเหลือง นั้น จังหวัดสมุทรปราการ ขอความร่วมมือเจ้าของรีบนำสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิ สุนัขและแมว ไปฉีดวัคซีนป้องกันให้เร็วที่สุด
สำหรับโรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่มีอันตรายร้ายแรง ไม่มียารักษา เมื่อมีอาการป่วยแล้ว จะเสียชีวิตทุกราย ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปีละกว่า 60,000 คน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็ก โดยถูกสุนัข หรือแมวกัดหรือข่วน แล้วไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็วและครบถ้วนตามที่แพทย์กำหนด โดยสุนัขเป็นสัตว์นำโรคหลักที่แพร่โรคพิษสุนัขบ้ามายังคนและสัตว์อื่น จากรายงานการสอบสวนโรคพิษสุนัขบ้า พบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ เมื่อถูกสุนัข หรือแมวกัด หรือข่วน แล้วไม่ให้ความสำคัญดูแลล้างบาดแผล และไม่ได้พบเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือแพทย์ จึงไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยเฉพาะผู้ที่ถูกลูกสุนัขกัด เนื่องจากคิดว่าลูกสุนัขไม่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อมีอาการป่วย จึงเสียชีวิตทุกราย โรคนี้โดยทั่วไปเชื้อจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2-7 เดือน แต่มักมีบางรายอาจสั้นหรือนานกว่านี้
ทั้งนี้ สุนัขที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าสังเกตได้คือ สุนัขจะมีนิสัยพฤติกรรมเปลี่ยนไปในระยะแรก ต่อมาจะมีอารมณ์หงุดหงิด หางตก น้ำลายไหล กัดสิ่งของที่ขวางหน้า ระยะสุดท้ายอาจมีอาการ บางตัวอาจแสดงอาการคล้ายกระดูกหรือก้างติดคอ ซึ่งทำให้เจ้าของเข้าใจผิดจนเอามือไปล้วงที่ปาก คลำหาก้างหรือกระดูก หากพบสุนัขมีอาการดังกล่าว ขอให้นึกถึงโรคพิษสุนัขบ้าและแยกสุนัขไว้ไม่ให้คลุกคลีกับสุนัขอื่นหรือคน และแจ้งปศุสัตว์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ความรู้ที่จำเป็นแก่ประชาชน และเร่งค้นหา ติดตามผู้ที่มีประวัติสัมผัสโรคทุกรายให้มารับวัคซีนให้ครอบคลุม 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งกำชับ อสม.ให้เคาะประตูบ้าน เพื่อเพิ่มค้นหา และติดตามผู้ถูกกัดหรือสัมผัสโรคมารับวัคซีนให้ครบทุกราย สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ให้ช่วยกันสอดส่องสัตว์แปลกหน้าที่มีอาการดุร้าย และแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่โดยเร่งด่วน หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1422