โรคฉี่หนูระบาด แนะกลุ่มเสี่ยงเช็คอาการ
สาธารณสุขเตือนโรคฉี่หนูระบาด แนะกลุ่มเสี่ยงเช็คอาการด่วน
นายศักดิ์สิน กุลบุตรดี ประธานคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอขุนหาญ เปิดเผยว่า ขณะนี้ สถานการณ์การเกิดโรคเลปโตสไปโรซีส (โรคฉี่หนู) อำเภอขุนหาญ มีผู้ป่วยแล้ว จำนวน14 ราย(ตำบลสิ, ตำบลพราน ,ตำบลบักดอง ตำบลละ 3 ราย ตำบลกระหวัน,ตำบลขุนหาญ ตำบลละ 2 ราย และตำบลกันทรอม 1 ราย) คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ12.17/แสนประชากร ไม่พบว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิต
เนื่องจากอำเภอขุนหาญเป็นอำเภอที่มีอาชีพหลักในด้านการเกษตรกรรม สามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้ทำอาชีพเกษตรกรรม และผู้มีอายุมาก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงตามวัย โดยเชื้อโรคได้อาศัยอยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว ควาย และหนู ดังนั้นหน่วยงานด้านสาธารณสุขจึงต้องดำเนินการเฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ เน้นให้ประชาชนให้มีความรู้ในการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ ซึ่งจะเป็นการลดจำนวนผู้ป่วยและลดอัตราป่วยตายได้ในระยะยาว
นายศักดิ์สิน กล่าวต่อว่า มาตรการคัดกรองและค้นหาผู้ป่วย/ผู้มีอาการสงสัย เพื่อให้การบำบัดรักษาอย่างทันท่วงที โดยใช้แนวทางตามแบบคัดกรองผู้ป่วยสงสัยโรคเลปโตสไปโรซิส คือ สอบถามอาการไข้ ตรวจดูอาการเลือดออกที่ใต้เปลือกตาทั้ง 2 ข้าง และตรวจสอบประวัติย่ำน้ำหรือสัมผัสสัตว์ หากพบว่า มีไข้สูงเฉียบพลัน, ปวดศรีษะรุนแรง, ปวดกล้ามเนื้อที่น่อง ต้นขา และสะโพก พร้อมมีประวัติลุยน้ำ แช่น้ำ ให้รีบแนะนำให้ผู้ป่วยรับการตรวจรักษาจากโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที่
“กลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคฉี่หนู ได้แก่ ผู้ที่ลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ ผู้ที่เดินลุยน้ำท่วม เกษตรกรชาวสวน ชาวนา คนงานขุดลอกท่อระบายน้ำ เชื้อไข้ฉี่หนูสามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยการไชเข้าทางบาดแผลหรือเข้าทาง เยื่อบุอ่อนๆ ของร่างกาย เช่น ง่ามมือ ง่ามเท้า ตา ขณะที่แช่น้ำ หรือการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด มีฉี่หนูปนเปื้อนในอาหารนั้นๆ การป้องกันการติดเชื้อ ต้องระวังป้องกันตนเอง ด้วยการสวมรองเท้าบูทเวลาจะต้องลงลุยน้ำ เมื่อลุยน้ำมาต้องล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาด” นายศักดิ์สินกล่าว
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า