`โยคะภาวนา`เสริมสุขภาพแบบสูงวัย

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ภาพประกอบจาก Facebook : SOOK 


\\'โยคะภาวนา\\'เสริมสุขภาพแบบสูงวัย thaihealth


รออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรง โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบโยคะ ที่กำลังเป็นที่นิยมของคนรักสุขภาพในสมัยนี้ เพราะว่าสามารถฝึกฝนได้กับคนทุกเพศทุกวัย 


วันนี้เราชวนมาทำความรู้จักกับกิจกรรม "โยคะภาวนา" ศาสตร์เพื่อการฝึกฝนให้จิตเป็นสมาธิ ช่วยส่งเสริมสุขภาพกายและใจอย่างสมดุล และส่งผลต่อความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายโดยรวม ซึ่งสนับสนุนโดยศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


ครูหมู-กุลธิดา แซ่ตั้ง วิทยากรจากสถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธิหมอชาวบ้าน กล่าวว่า โยคะภาวนาเป็นการผสานท่าอาสนะต่างๆ เข้ากับการหายใจ คำว่าภาวนา แปลว่าทำให้เจริญมากขึ้น ส่วนคำว่าโยคะมาจากรากศัพท์ แปลว่าการรวมกายและจิตเข้าด้วยกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็นการฝึกฝนเพื่อสร้างดุลยภาพของร่างกายร่วมกับการเจริญสติ ช่วยส่งเสริมสุขภาพกาย ปรับสมดุลระบบต่างๆ ให้แข็งแรง ดูอ่อนกว่าวัย แล้วยังก่อให้เกิดสมาธิ ส่งผลให้จิตใจสงบ อารมณ์มั่นคง รู้สึกผ่อนคลายโดยสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างจากโยคะทั่วๆ ไปที่อาจจะเน้นด้านกายภาพ แต่โยคะภาวนาจะเน้นการฝึกฝนให้จิตเป็นสมาธิ คือการรวมกายและจิตเพื่อความสุขอันแท้จริง จิตสงบได้แม้กายยังคงเคลื่อนไหว


โดยแท้จริงแล้ว โยคะภาวนาสามารถฝึกได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่การฝึกลักษณะนี้มีลักษณะเหมือนกับการปฏิบัติธรรมกลายๆ ดังนั้นโดยธรรมชาติของเด็กและวัยรุ่นคนที่มีพลังงานสูง การจะให้เขามาอยู่นิ่งๆ มานั่งภาวนาอาจไม่ถูกจริตนัก แต่สำหรับผู้สูงอายุ ข้อดีของการฝึกโยคะเป็นการฝึกที่เน้นถึงการฝึกการหายใจอย่างถูกวิธี เพื่อนำพาออกซิเจนเข้าไปสู่ปอดได้อย่างเต็มที่ และการเหยียดยืดของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายทั้งหลัง เอว สะโพก ขา ฯลฯ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ไม่ปวดเมื่อย ทั้งยังส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารและขับถ่าย เสริมสร้างกล้ามเนื้อชั้นในให้แข็งแรง กระตุ้นการไหลเวียนของกระแสโลหิต จัดปรับแนวกระดูกสันหลังให้สมดุล ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย เมื่อกายเรามีการพัฒนา ใจเราก็พัฒนาตามไปด้วย


"โยคะเป็นศาสตร์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนสมัยพุทธกาล และได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์ว่า หากฝึกอยู่สม่ำเสมอจะมีประโยชน์ต่อทุกส่วนของร่างกายและจิตใจ ในการฝึกก็เพื่อดับการปรุงแต่งของจิต พอทำแล้วจิตใจเราก็ยกสูงขึ้น ไม่ได้มีความอยาก ไม่ได้มีความทุกข์เยอะๆ แต่จะรับรู้ทุกอย่างตามความจริงเหมือนกับคำสอนของพระพุทธเจ้า คือมีสติ อยู่กับปัจจุบันด้วยใจที่เป็นกลางอุเบกขา ก็คือมีสิ่งดีขึ้นก็รู้ว่าเกิด สิ่งไม่ดีขึ้นก็รู้ว่าเกิด ก็เหมือนกับโยคะ พอรู้ว่าตึง เราก็ยอมรับ ไม่พยายามยืดหรือฝืนจนเกินไป พยายามหาความเหมาะสมของสรีระของตนเอง ผู้สูงวัยบางคนอาจสามารถทำท่ายากได้ แต่ต้องปรับตามความเหมาะสม หรือช่วงเวลาตามความเหมาะสม แต่สิ่งสำคัญกว่าในวัยที่มีแต่ความเสื่อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจแบบนี้ การฝึกภาวนา นึกถึงลมหายใจอย่างสมบูรณ์ และฝึกกำหนดลมหายใจอย่างมีสติ จะสามารถช่วยลดความเครียด สร้างความผ่อนคลายในการเยียวยาอาการเจ็บปวดทั้งด้านร่างกายและจิตใจ และฝึกจิตเพื่อความสุขสงบในชีวิต" ครูโยคะกล่าว


\\'โยคะภาวนา\\'เสริมสุขภาพแบบสูงวัย thaihealth


สำหรับท่วงท่าในการฝึกโยคะภาวนาไม่ได้มีท่าที่ตายตัว เนื่องจากพอเป็นภาวนา การฝึกต้องเป็นท่าที่เราอยู่ได้อย่างสบาย เพื่อที่เราจะได้รับรู้ในท่าได้ แต่หากเป็นท่ายาก แค่อยู่ในท่าค้างไว้ก็จะเหมื่อย เกร็ง จะให้อยู่แบบจนรับรู้ถึงตัวเรามากมันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะในใจผู้ฝึกก็จะนึกถึงว่าเมื่อไรจะคืนท่า แต่ถ้าเป็นท่าที่เขาอยู่ได้สบาย ก็จะไล่ฝึกได้เลยตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก้ม แอ่น บิด เอียง อาทิเช่น การเอียงศีรษะเอียงไปทางซ้าย ขวา หน้า หลัง แต่ให้จิตอยู่กับลมหายใจ การเหยียดยืดลำตัว แขน ขา เคลื่อนไหวร่างกายให้ครบทุกทิศทาง เป็นต้น


ทั้งนี้ การเริ่มต้นฝึกสำหรับผู้สูงวัยอาจมีการเริ่มต้นด้วยท่าง่ายๆ และมีอุปกรณ์ช่วยในการฝึก เช่น เบาะรองนั่ง เก้าอี้ หรือใช้ผนังช่วยในบางอาสนะ เมื่อรู้สึกเหนื่อยขณะฝึกอาจจะมีการพักเป็นระยะๆ และพยายามหายใจให้เป็นปกติ และไม่พยายามยืดหรือฝืนจนเกินไป ระยะเวลาในฝึกเพียงวันละ 40-60 นาที ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจ และอารมณ์แล้ว ขณะเดียวกันก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายแต่ละคนด้วย


ส่วนข้อควรระวังในการฝึกคือ ต้องระวังใจของเราไม่ให้ล่องลอย ฟุ้งซ่านหรือปรุงแต่งไปเยอะ เพราะช่วงเวลานั้นจิตไม่ได้รับรู้และอยู่กับตัวเรา ทำให้บางทีเมื่อฝึกร่างกายมีความตึงมากไป หรือต้องจับปรับเราก็ไม่รู้ตัว ทำให้มีโอกาสบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย แต่ถ้าจิตอยู่กับตัวเสมอ พอเรารู้สึกร่างกายตึงมากเกินไปก็จะสามารถปรับคลาย โอกาสบาดเจ็บจะน้อยลงและการฝึกก็จะสมบูรณ์


ด้านผู้เข้าร่วมการฝึกโยคะภาวนา ป้ายุ-ยุภา ตฤณธารารัตน์ อายุ 53 ปี รับราชการ เผยว่า เมื่ออายุมากขึ้น แต่เรายังอยู่ในวัยที่ทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ร่างกายก็ไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก แต่การได้มาฝึกโยคะภาวนา เมื่อฝึกไปแล้วก็รู้สึกดี ได้ยืดเส้นยืดสาย ทำให้จิตใจเราสดชื่นดีด้วย และยังสามารถเอาวิชาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งการฝึกโยคะไม่ใช่ฝึกแค่หนสองหนมันจะได้ แต่มันต้องฝึกฝนสม่ำเสมอ ซึ่งปกติตนเองก็มักจะหากิจกรรมหลายๆ อย่างทำเพื่อไม่ให้เบื่อ แต่สุดท้ายก็มาตกหลุมโยคะ เพราะรู้สึกว่ามันดีต่อร่างกายเรา และที่สำคัญดีต่อจิตใจอย่างมาก


จุ๊-นัชชา จารุพัฒนพรกิจ อายุ 46 ปี อีกหนึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรม บอกว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มารู้จักและทดลองฝึกโยคะภาวนา เพราะปกติเคยเล่นแต่โยคะทั่วไป แต่เมื่อลองเล่นแล้วก็รู้สึกชื่นชอบ เพราะทำให้ได้ความรู้และแนวทางในการปฏิบัติตัวที่สามารถนำกลับไปฝึกต่อเองที่บ้านได้ ช่วยทำให้จิตใจเราเย็นขึ้น สงบ มีสมาธิ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อใจดีก็ส่งผลถึงกายให้ดีตาม


เช่นเดียวกับ ปอน-บุษรามาศ เครือเมิน อายุ 32 ปี พนักงานบริษัทเอกชน บอกว่า รู้สึกดีที่ได้ฝึกโยคะภาวนา เพราะเป็นกิจกรรมเพื่อสุขภาพ และได้ฝึกธรรมะไปพร้อมๆ กัน ช่วยให้ใจสงบ เพราะบางทีเวลาเล่นเราก็ไม่ได้อยู่กับตัวเอง กายใจยังไม่สัมพันธ์ ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ พอมีคลาสโยคะภาวนาก็ช่วยให้การฝึกเป็นไปทางเดียวกัน คือพร้อมทั้งใจและกาย

Shares:
QR Code :
QR Code