“โพล” ชี้ เยาวชนไทยไม่อยากเป็นนักการเมือง
กรุงเทพโพลล์ เปิดเผยว่า เยาวชนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการเป็นนักการเมือง เพราะมีชื่อเสียงที่ไม่ดี กลัวไม่ปลอดภัย รวมทั้งมองว่า การเมืองมีแต่ความขัดแย้งและการจ้องจับผิดกัน
ผลสำรวจระบุว่า เยาวชนส่วนใหญ่ 90.6% ระบุว่า ไม่อยากเป็นนักการเมือง โดยให้เหตุผลว่า นักการเมืองมีชื่อเสียงที่ไม่ดี มีแต่คนเกลียด ไม่โปร่งใส ไม่ปลอดภัย และต้องรับผิดชอบคนหมู่มาก
ขณะที่มีเยาวชนเพียง 9.4% ระบุว่า ต้องการเป็นนักการเมือง เพราะจะพัฒนาประเทศให้ดีกว่านี้, ต้องการเป็นผู้นำที่ดี นำพาประเทศให้พ้นวิกฤติ, จะทำให้การคอร์รัปชั่นหมดไปจากเมืองไทย และต้องการรู้ว่าแค่ทำสิ่งดีๆให้ประชาชนมันยากตรงไหน เป็นต้น
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็นเยาวชนอายุระหว่าง 15-25 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร เรื่อง “มองการเมืองไทยผ่านสายตาเยาวชน” เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ 20 กันยายน ที่จะถึงนี้ โดยเก็บข้อมูลจากเยาวชนจำนวน 1,159 คน ในระหว่างวันที่ 10-12 ก.ย. 2553
ผลสำรวจยังพบว่า เยาวชน 62.1% ให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ทางการเมืองค่อนข้างน้อย ถึงไม่สนใจเลย ในขณะที่ 37.9% สนใจค่อนข้างมากถึงสนใจมาก แต่ 79.9% เห็นว่า การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนในสังคม มีเพียง 6.8% เห็นว่า เป็นเรื่องของนักการเมือง และรองลงมาก็คือ รัฐบาล
เยาวชน 47.6% เห็นว่า สภาพการเมืองไทยในปัจจุบัน มีแต่ความขัดแย้ง จ้องจับผิดกัน รองลงมา 26.7% เห็นว่า วุ่นวาย น่าปวดหัว 11.5% กล่าวว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย และมีแต่ความรุนแรง เป็นต้น
ส่วนมุมมองที่มีต่อนักการเมืองไทย พบว่า 44.0% เห็นว่า คำนึงถึงแต่เรื่องผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง, 16.2% ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ และคอร์รัปชั่น ดีแต่พูด เป็นต้น
สำหรับสิ่งที่เยาวชนต้องการบอกนักการเมืองไทยมากที่สุดคือ ให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศให้มากๆ รองลงมาคือ ให้ตั้งใจทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกิน ให้เลิกทะเลาะกัน บ้านเมืองจะได้สงบ
ส่วนโครงการของรัฐบาลที่เยาวชนระบุว่า ได้รับประโยชน์มากที่สุดคือ โครงการเรียนฟรี 15 ปี รองลงมาคือ โครงการกองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา และโครงการรถเมล์ฟรี
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
Update : 20-09-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน