โฆษณา “เหล้า” บนบีทีเอสไร้จริยธรรม

หวั่นเยาวชนถูกชักจูง นำไปสู่นักดื่มหน้าใหม่

 

 โฆษณา “เหล้า” บนบีทีเอสไร้จริยธรรม

          จากกรณีมีการนำเสนอโฆษณาสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยอ้างว่าไม่มีกฎหมายควบคุมการโฆษณา เนื่องจากประกาศกรมประชาสัมพันธ์ ถูกยกเลิกภายหลังมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 นั้น

 

          ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า หลังจากดูภาพโฆษณาบนรถไฟฟ้าแล้วพบว่าผิดชัดเจน เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายจะยกเว้นให้โฆษณาประชาสัมพันธ์ได้ เฉพาะผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่จะต้องรอกฎกระทรวงที่จะออกมากำหนดเงื่อนไขยกเว้น

 

          กรณีรถไฟฟ้าถือว่าผิดเนื่องจากยังไม่มีกฎออกมายกเว้น และอีกทั้งยังมีการแสดงภาพฉลากสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ ที่ต้องห้ามตามมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 อย่างชัดเจน

 

          นายพิริยะ ทองสอน เลขาธิการมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน กล่าวว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสควรเลือกรับโฆษณา เพราะบนรถไฟฟ้ามีเยาวชนขึ้นลงแต่ละวันจำนวนมาก เป็นสื่อเคลื่อนที่ที่เยาวชนจะได้รับข้อมูลโดยตรง การโฆษณาสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงพุ่งเป้ามาที่เยาวชน โดยการพยายามแสดงว่าเป็นสินค้าที่มีภาพลักษณ์ดี และช่วยเหลือสังคมแต่ความจริงแล้วเป็นเพียงภาพจอมปลอมเท่านั้น

 

          นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เจตนารมณ์นั้นไม่ได้ต่อต้านคนกินเหล้า แต่ต้องการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ที่จะถูกชักจูงไปสู่การดื่ม ซึ่งการโฆษณาไม่ว่าจะเป็นโฆษณาทางตรงหรือโฆษณาแฝง ในที่สุดจะนำไปสู่การเสพติดแอลกอฮอล์ของนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง อุบัติเหตุ ฯลฯ

 

          “ผมมองว่ากรณีที่มีการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าของกิจการต้องทบทวนหลักคุณธรรมและจริยธรรม เพราะการประกอบอาชีพต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสังคมต้องเฝ้าติดตามผู้ประกอบกิจการว่าทำธุรกิจที่เหมาะสมหรือไม่ กรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องนี้ขึ้นมาแสดงว่าเห็นความไม่ถูกต้อง ไม่ดีงาม ดังนั้นจะพึ่งกฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ต้องอาศัยความตระหนักของคนในสังคมเป็นสำคัญ” นพ.อำพลกล่าว

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

 

 

update 30-01-52

 

Shares:
QR Code :
QR Code