โครงการขับเคลื่อนสังคมแห่งการตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกัน
ที่มา : คมชัดลึก
ภาพประกอบจาก เว็บไซต์คมชัดลึก
ผ่านไปแล้วกับการเดินหน้าสร้างแกนนำคนสื่อสร้างสรรค์เพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมไปสู่อนาคตที่ดีกว่าในวี วันเนส (WE ONENESS)หรือ โครงการขับเคลื่อนสังคมแห่งการตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกัน โดยมูลนิธิสหธรรมิกชน ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในแผนงานพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาและเท่าทันสื่อ โดยครั้งนี้ได้ชวนคนบันเทิงร่วมเวิร์กช็อปสร้างแกนนำคนบันเทิงรุ่นใหม่เพื่อการตื่นรู้ สู่สุขภาวะทางปัญญาเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ที่โรงแรมเบลล่า บี อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
ตลอดระยะเวลาในกิจกรรม ศิลปินดารานักแสดงคนรุ่นใหม่กว่า 20 ชีวิต ได้เรียนรู้สร้างทักษะการเห็น รู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึก ความคิด ความเชื่อ ความกลัว ความกังวล ที่ปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริง ได้สำรวจและค้นพบความเป็นตัวเองที่แท้จริงว่าอะไรที่ขับเคลื่อนชีวิตทุกคน ได้สัมผัสศักยภาพที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในตัวเองและเป็นประโยชน์ต่อทุกชีวิต เปิดทัศนคติให้เกิดการ "ตื่นรู้" ในตนเอง และมองเห็นความเป็น "หนึ่งเดียวกัน" ของมนุษย์
"เอก" ธนโชติ กุสุมรสนานันท์ นักแสดงหนุ่มที่กำลังจะมีผลงานละครเรื่อง รักสิบล้อรอสิบโมง เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองหลังเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า ได้ทัศนคติดีๆ จากคนอื่นเยอะมาก ได้เห็นโลกในอีกหลายมุมมองจากหลากหลายสาขาอาชีพการงาน โอกาสที่เราจะได้คุยเรื่องจิตใจ ได้คุยเรื่องแก่นของมนุษย์มีน้อย ถ้าอยู่ๆ จะไปคุยกันเรื่องจิตใจจิตวิญญาณมันก็คงจะแปลกๆ กิจกรรมนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่ได้รวมตัวกัน ทุกคนตั้งใจที่จะเปิดใจรับฟังกันจริงๆ ทุกคนตั้งใจที่จะแชร์ประสบการณ์ทั้งทางที่ดีและไม่ดี ในจุดประสงค์ของการเรียนรู้และพัฒนา
"นอกจากเรื่องการทำงานในวงการก็ต้องสานต่อธุรกิจที่บ้านด้วย บางทีต้องเข้าไปคุมคนงาน บางทีอาจจะมีอะไรไม่พอใจบ้าง กิจกรรมนี้สอนให้มองคนอื่นจากมุมมองของเขา เราได้เห็นว่าเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนเรา เขาก็มีข้อผิดพลาดเหมือนกัน เห็นใจเขาหน่อย เราจะใจเย็นลง ทำอะไรตามเหตุผลสมควรมากกว่าตามอารมณ์ กิจกรรมนี้สอนให้เรามีสติมากขึ้น" เอก ธนโชติ เผย
ขณะที่นักแสดงสาวดาวรุ่งอย่าง ภัชธร ธนวัฒน์ หรือ พลอยภัชซึ่งกำลังมีผลงานซีรีส์ DARK BLUE KISS ที่กำลังออนแอร์ เล่าถึงความประทับใจว่าเป็นเวิร์กช็อปที่ทำให้ได้ออกจากกรอบของตัวเองจริงๆ จากปกติที่เป็นคนที่กลัวการเข้าสังคมใหม่ๆ คือกลัวว่าจะวางตัวอย่างไรหรือเข้าหาคนอื่นอย่างไร แต่กิจกรรมนี้ทำให้เราเปิดใจมาลองเรียนรู้ตัวเองและคนอื่น ซึ่งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด ทุกคนมีบุคลิกที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่ใจจริงเขาอาจจะหวังดีต่อเราก็ได้ แต่เราตัดสินเขาไปก่อน กิจกรรมนี้สอนให้เราไม่ตัดสินคนอื่นไปเลยว่าเขาจะรู้สึกแบบนี้กับเรา สอนให้เราเปิดใจลองคุยกับเขาก่อนมากขึ้น
นอกจากนี้ พลอยภัช ยังโชว์ผลงานการวาดรูปซึ่งเจ้าตัวตั้งใจวาดวิวกลางคืนมีพระจันทร์สะท้อนในน้ำ แต่หลังจากเวียนให้เพื่อนๆ ช่วยกันวาดเติมไปทีละคนมันกลายเป็นพระอาทิตย์ยิ้ม จากพระจันทร์กลายเป็นพระอาทิตย์ คือตรงข้ามกันเลย มีดาว มีหัวใจ สดใสมาก มันสอนเราว่าจริงๆ เราอาจอยู่กับตัวเองมากเกินไป ถ้าเราเปิดใจแล้วมองคนอื่นโดยที่เราไม่ตัดสิน เปิดโอกาสให้เขาคุยกับเรา อาจจะเหมือนพระอาทิตย์ดวงนี้ก็ได้ คือความรู้สึกของเราได้เติมเต็ม การที่เราไม่ตัดสินเขาไปก่อนเราอาจจะได้เรียนรู้มากขึ้น แต่การปิดตัวเอง สิ่งที่เราได้ก็คือเราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย