โครงการกำแพงพักใจ บริการปรึกษาสุขภาพจิตออนไลน์วัยวัยเรียน
ที่มา : MGR Online
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
กรมสุขภาพจิต จับมือเจ้าของแพลตฟอร์ม "อูก้า" ทำโครงการกำแพงพักใจ เปิดบริการปรึกษาสุขภาพจิตออนไลน์กลุ่ม "วัยรุ่นวัยเรียน" ผ่านจิตแพทย์ นักจิตวิทยามากกว่า 50 คน ใช้ได้ผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ นำร่องแล้ว 4 มหา'ลัย หวังลดเครียด ซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย มีระบบส่งต่อหากอาการรุนแรง
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการกำแพงพักใจ (Wall of Sharing) ระหว่างกรมสุขภาพจิต กับ บริษัท เทเลเมดิก้า จำกัด เพื่อให้การปรึกษาด้านสุขภาพจิต โดยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาออนไลน์แก่เด็กและเยาวชนอายุ 10-24 ปี ว่า โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาสำคัญ เป็นโรคใกล้ตัวที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากไม่ได้รับการรักษาอาจรุนแรงจนนำไปสู่ปัญหาการฆ่าตัวตาย โดยผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้ามีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายมากกว่าคนทั่วไปถึง 20 เท่า โดยผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า 100 คน จะเป็นวัยรุ่น 11 คน และในวัยรุ่น 100 คน จะมีภาวะซึมเศร้า 3 คน ทั้งนี้ กรมฯ มีบริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 จัดบริการให้ได้ปีละประมาณ 200,000 สาย จากการโทร.เข้ามากว่า 800,000 สาย คิดเป็น 1 ใน 4
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ในปี 2561 พบว่า ปัญหาสุขภาพจิตที่ทำให้เด็กและเยาวชนโทรศัพท์มาขอรับการปรึกษามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ภาวะเครียดหรือรู้สึกกดดัน 2. ปัญหาความรัก 3. ปัญหาเรื่องเพศหรือการใช้สารเสพติด 4. ภาวะซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย ทำร้ายคนอื่น และ 5. ครอบครัว ไม่เข้าใจ โดยภาพรวมวัยรุ่นยังเป็นกลุ่มที่มีการเข้าถึงบริการน้อย ปี 2561ให้บริการได้ประมาณ 9,000 สาย การค้นหาช่องทางช่วยเหลือเด็กและวัยรุ่นให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นที่มาในการพัฒนาความร่วมมือ "โครงการกำแพงพักใจ" กับ บริษัท เทเลเมดิก้า เจ้าของแอปพลิเคชัน "อูก้า (Ooca)" ที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยให้บริการปรึกษาด้านสุขภาพจิต ซึ่งจะส่งผลให้เด็กและวัยรุ่น สามารถนัดและพบกับจิตแพทย์ นักจิตวิทยาได้ผ่านทางออนไลน์ สามารถใช้ได้ทั้งสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ โดยจะเป็นโรงพยาบาลเสมือน (Virtual Hospital) หรือโรงพยาบาลออนไลน์ที่สะดวกกว่า ไม่ต้องเดินทาง เลือกขอรับการปรึกษาเมื่อไรก็ได้ มีความเป็นส่วนตัวสูง มีจิตแพทย์และนักจิตวิทยามากกว่า 50 คน ให้การปรึกษา
พญ.ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กทม. กล่าวว่า โครงการกำแพงพักใจ เป็นโครงการที่สถาบันฯ ร่วมมือกับบริษัท เทเลเมดิก้า ผู้พัฒนาระบบให้การปรึกษาออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอูก้า โดยโครงการกำแพงพักใจเป็นโครงการนำร่อง มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนงานด้านสุขภาพจิตให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยรัฐ ซึ่งขณะนี้มีมหาวิทยาลัยนำร่องที่ลงนามเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 4 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ม.มหิดล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ ม.พะเยา สามารถรับบริการปรึกษาผ่านระบบโรงพยาบาลออนไลน์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และจะขยายบริการให้ครอบคลุมเด็กและเยาวชนอายุ 10-24 ปี กลุ่มอื่นต่อไป
"วิธีการให้บริการปรึกษาออนไลน์ ทำให้เด็กและวัยรุ่นได้พูดคุยระบายความรู้สึกและความเครียดได้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา สามารถรับฟังและชวนวิเคราะห์ รวมทั้งมีการพัฒนาระบบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหรือคลินิกสุขภาพจิต เพื่อให้การดูแลต่อเนื่องในรายที่อาการรุนแรงหรือเรื้อรังอีกด้วย โดยมีหน่วยงานภาคเอกชน มูลนิธิ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมให้การสนับสนุน" พญ.ดุษฎี กล่าว
ในช่วง 2 ปีนี้ สถาบันฯ มีเป้าหมายที่จะลดอัตราการฆ่าตัวตายในเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 10-24 ปี จาก 300 รายต่อปี ให้เหลือเพียง 150 รายต่อปี และเพิ่มจำนวนการให้การปรึกษาแก่ผู้ใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 จาก 200,000 สายต่อปี เป็น 400,000 สายต่อปี ภายในปี 2564