“แอลกอฮอล์” ปัญหาสากลที่ทุกคนต้องร่วมกันหยุดยั้ง!!

กฎหมาย คือสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งพิจารณา

          วันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และศูนย์วิจัยปัญหาสุรา จัดการบรรยายแลกเปลี่ยนความรู้เรื่อง “การจัดการกับปัญหาแอลกอฮอล์ในประเทศไอร์แลนด์” โดยมี ดร.แอน โฮป ผู้เชี่ยวชาญชาวยุโรปร่วมให้แนวคิดในการแก้ไขปัญหานี้

          ดร.แอน โฮป ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแอลกอฮอล์แห่งชาติไอร์แลนด์ กล่าวว่า แอลกอฮอล์คือปัญหาที่สร้างความเสียหายมากมาย ไม่ใช่เพียงตัวผู้ดื่ม แต่ยังส่งผลกระทบไปยังคนรอบข้าง ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คืออุบัติเหตุบนท้องถนน โดยจากการทำงานที่ผ่านมานั้น วิธีที่มาลดปัญหานี้ลงได้คือการเพิ่มภาษีสุรา การดักตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่บนท้องถนน และการจำกัดพื้นที่และเวลาในการจำหน่าย โดยในช่วงปี 2002-2003 ได้มีการผลักดันให้รัฐบาลเพิ่มภาษีสุราถึงร้อยละ 40 แม้จะมีเสียงต่อต้านออกมาส่วนหนึ่ง แต่ก็ทำให้ปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ และความเสียหายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไอร์แลนด์ลดลงได้อย่างมากเนื่องจากมีกฎหมายที่แข็งแรงและการลงโทษที่จริงจัง

 

          “แต่น่าเสียดายคือเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายนี้ได้ถูกลบไป มีนักการเมืองที่ทำธุรกิจแอลกอฮอล์เข้าไปนั่งทำงานในสภาด้วย ในที่สุดจึงเกิดการลดภาษีสุรา และเปิดช่องว่างให้เครื่องดื่มเหล่านี้กลับมาขยายอิทธิพล ทุกวันนี้ประเทศไอร์แลนด์จึงกลับมาเผชิญปัญหานี้อีกครั้ง และอาจจะรุนแรงมากกว่าเดิมเนื่องจากขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยสิ่งที่จะเป็นเกราะได้มากที่สุดในตอนนี้คือการเร่งให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกที่ดีโดยเน้นที่เยาวชนเพราะคืออนาคตและความหวังของชาติ” ดร.โฮป กล่าว

 

          ด้านนายแพทย์ ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า ปัญหาในการดำเนินงานแก้ปัญหาแอลกอฮอล์ในประเทศไอร์แลนด์ คล้ายกับประเทศไทยมาก คือเรามีวิธีการแก้ปัญหาที่ดีแต่มักขาดการสนับสนุนร่วมมือที่จริงจังจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและภาคประชาชน ทั้งที่การแก้ปัญหาได้ผลออกมาชัดเจนว่าการที่รัฐบาลขึ้นภาษีสรรพสามิต เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา พบว่า คนไทยบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ลดลงจากเดิม 1.17 ล้านลิตร แต่รัฐบาลยังมีรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยภาษีแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว แต่ในปี 2553 จะมีการใช้เขตการค้าเสรีในกลุ่มประเทศสมาชิกเอเซียน(อาฟต้า) ซึ่งส่งผลให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้า มีราคาถูกลง เกิดเป็นกระบวนการที่ซ้ำซ้อนกัน ว่าตกลงแล้ว ปัญหานี้กำลังถูกแก้ หรือกำลังถูกเลิกแก้

 

          “ดังนั้น การที่ประเทศชาติจะผ่านวิกฤตปัญหานี้ได้ ทุกฝ่ายก็ต้องช่วบกันอย่างจริงจัง ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ร่วมมือกันสร้างข้อกฎหมายที่เข้มแข็ง อย่าเปิดโอกาสให้สิ่งที่เรียกว่า “แอลกอฮอล์” เข้ามาทำลายเยาวชนและคนไทยไปมากกว่านี้”  นพ.ทักษพล กล่าว

 

 

 

เรื่องโดย : พรรณปพร ศรีเจริญ

update 24-12-52

อัพเดตเนื้อหาโดย : พรรณปพร ศรีเจริญ