‘แอพพลิเคชั่น’ ปลุกสำนึกเด็กรักต้นไม้

          “บิ๊กทรี” จับมือ ร.ร.สตรีวุฑฒิศึกษา ชวนเด็กประถม 2-3 ปลูกผักสวนครัว ปลูกจิตสำนึกรักต้นไม้สร้างพื้นที่ สีเขียวในเมือง สานต่อ โครงการ “ทำมะ เมืองน่าอยู่” พร้อมโชว์ผลงานผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น “ทำมะ” ดูผ่านแทบเล็ตและสมาร์ทโฟน

/data/content/23360/cms/hinopruvxyz7.jpg          อรยา สูตะบุตร ผู้ประสานงานกลุ่มบิ๊กทรี เปิดเผยว่าในปีนี้ กลุ่มบิ๊กทรี ร่วมกับโรงเรียนสตรีวุฑฒิศึกษา โรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร สรรค์สร้างกิจกรรมปลูกผักสวนครัว ชวนนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 2 และชั้นปีที่ 3 ปลูกฝังเรื่องของการดูแล ปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว ต่อเนื่องจากโครงการ “ธรรมะ-ทำมะ 2600 ปีแห่งการตื่น 26 วันเปลี่ยนชีวิต” ฉลองวาระพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพุทธเจ้า ซึ่งจัดโครงการ ทำมะ (เพื่อเมืองน่าอยู่) ที่ดำเนินการอยู่นี้ ได้เชิญชวนสถานศึกษา ภาคธุรกิจ ประชาชนเข้ามาร่วมเพิ่มเติม เพื่อสร้างสำนึกในการเห็นคุณค่าพื้นที่สีเขียว ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์โลก

          “กลุ่มบิ๊กทรี ต้องการเห็นพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานคร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่มีการจัดตั้งกลุ่มขึ้น ได้มีการรณรงค์ ทำความเข้าร่วมมือกับโรงเรียน มหาวิทยาลัย และภาคธุรกิจต่างๆ ให้เห็นความสำคัญ คุณค่าของพื้นที่สีเขียว ผ่านการปลูกต้นไม้ โดยในปีนี้ นอกจากจะมี กิจกรรมปลูกพืชผักสวนครัวที่ทำร่วมกับ ร.ร.สตรีวุฑฒิศึกษา โดยทางกลุ่มจะติดตามการดูแลต้นไม้ของเด็กผ่านสมุดบันทึกความดี ในเดือนมี.ค. 2557 “

          “นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดกิจกรรม ‘อบรมอินโฟกราฟฟิคเพื่อเศรษฐกิจยั่งยืน’ โดยกลุ่มนักศึกษาคณะวารศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้พัฒนาตนเองแบบยั่งยืน และกลางปีจะจัดกิจกรรม กลุ่มคนรักอนุสาวรีย์ โดยจะเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มภาคธุรกิจ ชุมชน และประชาชนทั่วไป ร่วมทวงคืนพื้นที่ สีเขียวในบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  เน้นการปลูกต้นไม้กระถางที่ทนทาน เพิ่มความร่มรื่นและความสวยงาม” อรยา กล่าว

          ผู้ประสานงานกลุ่มบิ๊กทรี เปิดเผยอีกว่า ทุกกิจกรรมจะมีการติดตามการดำเนินงานของโครงการ และบันทึกลงในโมบายแอพพลิเคชั่น  “ทำมะ” ทั้งในระบบไอโอเอส และระบบ แอนดรอยด์ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของกิจกรรม ขณะเดียวกัน เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของการปลูกต้นไม้จะช่วยเปลี่ยนตัวเอง ปรับทัศนียภาพ และร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติของประเทศได้อย่างไรบ้าง

/data/content/23360/cms/acgijlqtxz37.png          ด้าน มยุรี อะหะหมัดจุฬา ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวุฑฒิศึกษา กล่าวว่าโรงเรียนพยายามปลูกฝังเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ให้รู้จักการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และมีคุณธรรมจริยธรรมตลอดมา เมื่อทางกลุ่ม บิ๊กทรี ได้ประสานความร่วมมือจัดกิจกรรมปลูกผักสวนครัว ทางโรงเรียนเห็นว่ามีประโยชน์จึงได้ให้นักเรียนเข้าไปมีส่วนร่วม

          แม้จะพบว่าโรงเรียนมีข้อจำกัดอยู่ก็ตาม ไม่ว่าจะมีขนาดเล็ก มีพื้นที่ทำกิจกรรมจำกัด บริเวณโรงเรียนไม่ได้มีพื้นที่สีเขียว หรือต้นไม้ใหญ่ ขณะเดียวกัน ยังเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยกินผัก ดังนั้น การที่นักเรียนโดยเฉพาะระดับประถมศึกษาได้ลงมือปลูกผักด้วยตัวเอง ได้ดูแล รดน้ำพรวนดิน จะทำให้เขาเกิดความรัก มั่นใจ อยากรับประทานผักของตัวเอง และทำให้เด็กๆ รู้วิธีการปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกต้นไม้ เป็นการปลูกฝังการใส่ใจต่อธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ทำให้เด็กๆ ไม่ลืมต้นไม้ ทั้งนี้หากการดำเนินกิจกรรมได้ผลดี ทางโรงเรียนจะขยายกิจกรรมไปสู่ชั้นเรียนอื่นๆ ตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต่อไป

          “ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ ไม่กินผัก ไม่ได้สนใจว่าจะมีต้นไม้มากน้อยหรือไม่ ทั้งที่ ต้นไม้ ธรรมชาติเป็นแหล่งฟอกอากาศที่ดีที่สุด ดังนั้น กิจกรรมที่ทางกลุ่มบิ๊กทรีจัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ไปลงพื้นที่ดูต้นไม้ หรือให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ มาชวนเด็กๆปลูกพืชผักสวนครัวในโรงเรียน ล้วนเป็นบทเรียนที่เพิ่มเติมทักษะการเรียนรู้ทางด้านเกษตรให้แก่นักเรียนได้อย่างดี เพราะการลงมือทำ จะทำให้พวกเขาสนุกและเกิดการจดจำไปได้ตลอด อีกทั้งในโรงเรียน ครูที่มีความรู้ด้านการเกษตรจริงๆนั้นมีน้อยมาก เนื่องจากไม่มีครูที่จบเกษตรโดยตรง ความรู้ที่กลุ่มบิ๊กทรีเข้ามาเสริมจะทำให้เด็กเข้าใจการเรียนการสอนวิชาเกษตรได้ดีมากขึ้น” ผอ.ร.ร.สตรีวุฑฒิศึกษา กล่าว

          อย่างไรก็ตาม โรงเรียนทุกแห่งมีศักยภาพและความพร้อมแตกต่างกัน  การที่กลุ่มบิ๊กทรีเข้ามาจัดกิจกรรมให้นักเรียนมีส่วนร่วม เป็นการช่วยเพิ่มเติมทักษะความรู้ ความคิด เพิ่มศักยภาพให้แก่นักเรียนมากขึ้น  จึงมีแนวคิดในการขยายกิจกรรมไปยังสถานศึกษาอื่นๆ  รวมทั้งบูรณาการ บทเรียนเข้ากับกิจกรรม เช่น  การทำสวนถาด หรือ การพานักเรียนทัศนศึกษา เรียนรู้ต้นไม้ต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนมากขึ้น.

          ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมปลูกผักสวนครัว ของนักเรียน ร.ร.สตรีวุฑฒิศึกษา ผ่านการบันทึกกิจกรรม “ทำมะ” ระบบ iOS ใน App store โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและติดตามข่าวสารของ “กลุ่มทำมะ” ได้ที่ http://www.facebook.com/TUMMA.application โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

          ‘ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ ไม่กินผัก ไม่ได้สนใจว่าจะมีต้นไม้มากน้อยหรือไม่ ทั้งที่ ต้นไม้ ธรรมชาติเป็นแหล่งฟอกอากาศที่ดีที่สุด ดังนั้น กิจกรรมที่ทางกลุ่มบิ๊กทรีจัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ไปลงพื้นที่ดูต้นไม้ หรือให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ มาชวนเด็กๆปลูกพืชผักสวนครัวในโรงเรียน ล้วนเป็นบทเรียนที่เพิ่มเติมทักษะการเรียนรู้ทางด้านเกษตรให้แก่นักเรียนได้อย่างดี’

 

 

 

 

 

          ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดยอิสระ สนามไชย

 

Shares:
QR Code :
QR Code