แห่แจมพี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย

เด็กบางกะปิไม่พลาด

 

          หนังสือบางฉับเขียนไว้ว่า…ยาบำรุงสมองที่ดีที่สุดในโลกคือ การออกกำลังกาย หรือ การออกกำลังกายนับเป็นโอสถแก้โรคภัยไข้เจ็บที่ดีที่สุด และบ้างก็ว่า…การออกกำลังกายเป็นยาวิเศษที่ช่วยป้องกันและรักษาโรค

 

          แล้ววันนี้คุณออกกำลังกายหรือยัง !!!

 

          แม้แหล่งชุมชนหลายที่จะรณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังกาย และมักจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงองค์กรต่างๆ ที่มักจะจัดค่ายกีฬาฤดูร้อนในช่วงปิดภาคเรียน โดยหวังที่จะปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนรักการออกกำลังกายและเล่นกีฬาจนกลายเป็นหนึ่งในวิถีชีวิต

 

          แต่หากดูจากอัตราเฉลี่ยการออกกำลังกายของคนไทยในปัจจุบันนับเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับบางประเทศ ซึ่งมีอัตราผู้ออกกำลังกายมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด

 

          อย่างไรก็ตามแม้ผลการศึกษาที่ผ่านมาจะระบุว่า ในช่วง “วัยเด็ก” คนไทยออกกำลังกายในอัตราที่สูง และมีสมรรถภาพทางกายดีเทียบเท่ากับเยาวชนของประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจแต่เมื่อเข้าเรียนในระดับที่สูงขึ้นกลับห่างเหินจากการออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างเห็นได้ชัด

 

          ด้วยเหตุนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้จัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ มากมาย ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา เพื่อหวังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเยาวชนให้เห็นความสำคัญของการออกกำลังกายอย่างถ่องแท้

 

          และโครงการ “พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย” ก็เช่นเดียวกัน หลังเปิดลานกีฬาครั้งที่ 1 รุ่นที่ 1 ที่ศูนย์วชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร ไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และปรากฏว่ากระแสตอบรับจากน้องๆ เยาวชนสนใจกันไม่น้อย เช่นเดียวกับวันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ศูนย์เยาวชนบางกะปิ นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส ประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 5 สสส.พร้อมด้วย ประภาส พิณพงษ์ หัวหน้าศูนย์เยาวชนบางกะปิ ได้เปิดลาน “พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย” ครั้งที่ 2 รุ่นที่ 1 ใน 2 ชนิด คือ ว่ายน้ำ และ ฟุตซอล ซึ่งอบรมวันที่ 7-22 ธ.ค. 52 เวลา 16.30-18.30 น.

 

          โดยได้เงือกสาวดาวรุ่ง เยาวชนทีมชาติไทย “น้องส้ม” ฉวีวรรณ ขำมี และ “เศรษฐกร ชื่นตา” นายทวารโต๊ะเล็กทีมชาติไทย ที่มาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญ “โค้ชแมว” คำรณ สำราญพันธ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตซอลทีมชาติไทย มาประสาทวิชาถ่ายทอดความรู้ และเสริมทักษะให้น้องๆ แบบประชิดตัว

 

          เรียกว่าเยาวชนที่มาร่วมโครงการหนนี้รับประกันไม่มีผิดหวัง เพราะเหนือจากการเล่นกีฬาและออกกำลังกายอย่างถูกวิธีแล้ว ยังกอบโกยความรู้และเทคนิคต่างๆ กลับไปฝึกฝนฝีมือกันอีกเพียบ ทั้งจากรุ่นพี่นักกีฬาทีมชาติและวิทยากรผู้เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์

 

          และนอกจากร่างกายจะเกิดการพัฒนาอย่างมีคุณภาพและสุขภาพแข็งแรงแล้ว ข้อดีอีกประการที่ได้รับแน่นอนที่สุด คือ สุขภาพจิต เพราะการออกกำลังกายจะไปกระตุ้นทำให้สารเอ็นโดรฟินในสมองหลั่งและทำให้เรารู้สึกเป็นสุข ซึ่งความสุขที่เกิดจากการหลั่งและทำให้เรารู้สึกเป็นสุข ซึ่งความสุขที่เกิดจากการหลั่งของเจ้าสารเอ็นโดรฟินนี่แหละ ที่มีส่วนเสริมความแข็งแรงให้ร่างกายและทำให้จิตใจแจ่มใสอารมณ์ดี

 

          รู้แบบนี้แล้วอย่ารีรอที่จะร่วมเป็นหนึ่งในโครงการ “พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย” แต่หากพลาดครั้งนี้ยังมีสิทธิ์ร่วมอบรมรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 11 ม.ค.-1 ก.พ. 53 เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 25 ธ.ค. 52 สนใจติดตามรายละเอียดที่ www.siamsport.co.th หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร.0-2508-8276 และ 08-9079-1420เพราะนอกจากจะทำให้สุขใจแล้ว ยังทำให้สุขกายได้อีกด้วย

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามกีฬา

 

 

 

update: 08-12-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร