แห่ค้าประเวณี ‘แอฟริกาใต้’ หวังเสี่ยงโชค-ติดเอดส์งอม
พบเป็นหญิงไทยนับพัน เหตุหนีพิษเศรษฐกิจ
นายสิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ รอง ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากนายโดมเดช บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพริทอเรีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ในการเดินทางไปดูงานเมื่อช่วงวันที่ 4-12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่า มีผู้หญิงไทยเดินทางไปค้าประเวณีที่แอฟริกาใต้ปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 คน โดยส่วนใหญ่ติดเชื้อเอดส์ นอกจากนี้ยังมีรายได้ต่ำกว่าที่คาด ทำให้ผู้ค้าประเวณีหลายรายต้องติดต่อขอความช่วยเหลือมายังสถานทูตไทย
“หญิงไทยส่วนใหญ่ไปด้วยความสมัครใจ บางรายยอมแต่งงานกับชาวแอฟริกาใต้ เพื่อจะได้เข้าประเทศได้ง่าย แต่สุดท้ายก็ได้รับเชื้อเอดส์กลับมา สาเหตุหลักเป็นเพราะผู้ชายแอฟริกามีอวัยวะเพศขนาดใหญ่และไม่นิยมใช้ถุงยางอนามัย ทำให้อวัยวะเพศหญิงฉีกขาด บางรายยังถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก จนติดเชื้อเอดส์ใน ที่สุด นอกจากนี้เจ้าของสถานบริการบางแห่งยังบังคับให้ผู้หญิงเสพยาเสพติดระหว่างค้าประเวณี รวมถึงยึดหนังสือเดินทางเพื่อป้องกันการหลบหนี” นายสิทธิสัตย์ กล่าว
นายสิทธิสัตย์ กล่าวว่า ผู้หญิงไทย ที่ตัดสินใจเดินทางไปขายบริการที่แอฟริกาใต้ เพราะปัญหาสภาพเศรษฐกิจบีบคั้น โดยคาดหวังว่าจะมีรายได้มาก แต่จากข้อมูลพบว่าไม่จริง เนื่องจากหญิงบริการทุกรายต้องจ่ายค่านายหน้าให้กับขบวนการค้าประเวณีข้ามชาติรายละประมาณ 2-3 แสนบาท ขณะที่มีรายได้จากการขายบริการไม่มาก
ทั้งนี้ จากสถิติในปี 2549 สถานทูตไทยประจำแอฟริกาใต้ได้ให้ความช่วยเหลือหญิงไทย 60 ราย ปี 2550 ให้ความช่วยเหลือไป 75 ราย และในปี 2551 เฉพาะช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. มีผู้มาขอความช่วยเหลือแล้ว 20 ราย โดยปัญหาสำคัญคือ หลังจากส่งกลับมายังประเทศไทยแล้ว ทางราชการจะไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้ติดเชื้อเอดส์และไม่สามารถกักบริเวณได้ตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จึงจำเป็นต้องปล่อยตัวออกไป
“อยากเตือนหญิงไทยที่คิดไปค้าประเวณีขอให้ทบทวนให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะการเข้าไปช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่สถานทูตมีอุปสรรคมาก เพราะต้อง ต่อสู้กับขบวนการค้าประเวณีข้ามชาติ” รองปลัด กทม. กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
update: 17-06-51