แรงบันดาลใจจาก เทวดาในตัวเอง
เบื้องหลังผลงานชิ้นโบว์แดงของนักสร้างสรรค์ ไม่เคยได้มาง่ายดาย ล้วนมีเส้นทางที่ต้องฟันฝ่า มีแรงบันดาลใจเอาชนะความย่อท้อ มีความฝันถึงภาพอนาคต และมี “เทวดา” ที่นำพาสู่ความสำเร็จ
“เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์” นักเขียนหนุ่มหน้าใหม่เจ้าของผลงาน “the big secret” ถ่ายทอด “ศิลปะแห่งการค้นหาเทวดาในตัวเรา” ผ่านชีวิตของนักสร้างสรรค์ ในเวทีประชุม “ha national forum : ความงามในความหลากหลาย” ของสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
จิตวิญญาณศิลปะของไมเคิล แองเจลโล
“เรเนสซองส์” หรือยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการในทวีปยุโรป ที่เพิ่งผ่านพ้นจากยุคกลางหรือยุคมืด เริ่มต้นขึ้นในประเทศอิตาลี รูปปั้นที่เป็นเสมือนตัวแทนจิตวิญญาณคนในยุคนี้คือ “กษัตริย์เดวิดที่ยิ่งใหญ่ของชาวยิว” กำลังเงื้ออาวุธสังหารยักษ์ใหญ่โกลิแอคอย่างสง่างามกล้าหาญ ชายคนหนึ่งที่กำลังท้อแท้กับชีวิต ออกเดินทางไปอิตาลี กระทั่งเจอจิตวิญญาณของ “ไมเคิล แองเจลโล” ในรูปปั้นหินอ่อนของเดวิด
แรกที่ผลงานชิ้นนี้ปรากฏออกมา เจ้าเมืองช่างติหาข้อตำหนิว่าไม่สมบูรณ์ แองเจลโลจึงปีนขึ้นไปเคาะ แล้วหินร่วงลงมา เจ้าเมืองจึงชื่นชมว่าดี ทั้งที่เขาแค่แอบกำก้อนหินขึ้นไปปล่อยลงมาเท่านั้น “ผมเห็นเทวดาในหินก้อนนั้น แล้วผมก็สลักมัน สลักมัน จนกระทั่งผมสามารถทำให้มันเป็นอิสระ” กระนั้นศิลปินผู้นี้ก็บอกว่า ความมหัศจรรย์ มาจากการทำงานหนัก!
“ถ้าเกิดว่าทุกคนรู้ว่าผมได้ทำงานหนักแค่ไหน เพื่อที่จะเป็นยอดฝีมือด้านศิลปะ ก็จะรู้สึกว่าผลงานเหล่านี้ ไม่มีความมหัศจรรย์อะไรเลย” แต่ที่โด่งดังกว่าสิ่งที่เขาปั้นมาตลอดชีวิตกลับเป็น “ภาพวาดบนวิหารโบสถ์ซิสติน” ที่กรุงโรม อิตาลี แม้ความตรากตรำจากผลงานนี้ ทำให้หลังปวดจนเรียกได้ว่าเป็นความพิการในเวลาต่อมา ทว่าเหนืออื่นใดคือความภาคภูมิใจของเขาต่อผลงานชิ้นนี้
ไมเคิล แองเจลโล เป็นศิลปินร่วมสมัยที่โด่งดังพอๆ กับจิตรกรอย่าง เลโอนาร์โด ดาวินชี และความท้าทายมุมานะเอาชนะนั่นเอง ที่ทำให้ประติมากรอย่างเขา วาดรูปตะลึงโลกนี้ได้ จิตวิญญาณนี้ของแองเจลโล กำลังบอกว่า นักสร้างสรรค์ต้องไม่ยึดติดกับแบบแผนเดิมที่เคยทำ ต้องลองค้นหาตัวเอง คิดในสิ่งที่ไม่เคยคิด ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ
เบื้องหลังความสำเร็จไอโฟน 4 ของสตีฟ จอบส์
มาถึงยุคสมัยของสังคมสารสนเทศหรือไอที ไม่มีใครไม่รู้จัก “สตีฟ จอบส์” เจ้าของบริษัทแอปเปิ้ล ที่นอกจากเป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เขายังเป็นผู้นำด้านการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค เช่น ทอยส์ สตอรี่ อีกด้วย
ในช่วง 5-6 ปีมานี้ แอปเปิ้ลได้รับรางวัลผลงานสร้างสรรค์และนวัตกรรมมากมาย และทั้งไอพอต ไอโฟน ล่าสุดคือ ไอแพด ล้วนเป็นสินค้าที่คนสมัยใหม่อยากครอบครอง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้ มาจากความคิด มุมมอง และประวัติชีวิตอันโลดโผนโชกโชนของจอบส์
ชายผู้นี้ลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน แต่ต่อมาเขากลับได้รับเชิญไปกล่าวสุนทรพจน์ในมหาวิทยาลัยที่โด่งดังของสหรัฐอเมริกา นี่คือปาฐถาของคนไม่จบปริญญาตรี…
“จงจำไว้ว่า การรู้สึกว่าตัวเองจะต้องตายในเร็ววัน เป็นเครื่องมือสำคัญที่สุด ที่จะทำให้คุณเลือกสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เพราะเมื่อคุณตายทุกอย่างเป็นอิสระ ความคาดหวังจากภายนอก ความหยิ่งทะนงของเรา ความกลัวความล้มเหลวหายไปหมด ไม่มีคุณค่า แล้วทำไมเราไม่ทำสิ่งที่เรารักวันนี้ โฟกัสในสิ่งที่เราเชื่อเราอยากจะทำ และทำมันให้ดีที่สุด”
จ็อบส์ ยังบอกว่า การที่เราค้นพบงานที่ตัวเองรัก เหมือนได้ค้นพบคนรัก และงานที่เรารักยังเปรียบเสมือนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนที่คบหากันมาน มีแต่จะยิ่งดีขึ้นๆ เพราะต่างรู้ใจกัน จุดเด่นของไอโฟนคือ ความเรียบง่าย ใช้งานคล่อง เป็นด้วยวัยหนุ่มของจ็อบส์สนใจในศิลปะเซน เขาเคยเดินทางไปหานักบวชในอินเดีย ความเชื่อมโยงนี้จึงไม่ใช่ความบังเอิญ และเป็นสิ่งสำคัญของนักสร้างสรรค์ที่จะต้องเปิดโลกการเรียนรู้ให้กว้าง แลกเปลี่ยนกับคนที่หลากหลาย
โมเดลเทวดาในตัวเอง
ลองเปิดใจค้นหาตัวเอง คิดในสิ่งที่ไม่เคยคิด ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ความเจ็บปวดหรือความอับอายไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ แต่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตล้มเหลวคือการไม่กล้าก้าวเดินออกไป แล้วมองว่าตัวเองโง่ ด้อยค่า สัมผัสความเป็นมนุษย์ ทั้งในมุมที่เราเห็น และในมุมที่ลึกลงไปกว่านั้น ใช้เวลา 20% ในการค้นหาความรู้นอกสาขาที่เราคุ้นเคย เรียนรู้ที่จะค้นหาความงามภายใต้ขีดจำกัดอันสั้นของชีวิต
ชีวิตของคนสร้างสรรค์ทั้งหลายแหล่ “ไม่เคยมีความง่าย” กล้าที่จะลองทำ แล้วคุณจะรู้ว่าการเป็นคนสร้างสรรค์มันเป็นศักยภาพที่จะทำได้ นักสร้างสรรค์ทุกคนล้วนต้องผ่านความเจ็บปวด แต่พวกเขาไม่เคยท้อแท้ จึงได้พบกับผลลัพธ์อันหอมหวานอัจฉริยะไม่ได้มาจากฟ้า! ไม่มีสูตรความสำเร็จของนักสร้างสรรค์ แต่ทุกคนล้วนมีความเร่าร้อนในการสร้างสรรค์ผลงาน และพวกเขาค้นหา“เทวดาในตัวเอง” เจอ
ที่มา: สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น