แรงงานไทย(ต้อง)ร่วมใจไม่พนันบอล
เชียร์แบบสร้างสรรค์
ใกล้เข้าโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับเทศกาลฟุตบอลโลก2010 เพราะการแข่งขันดำเนินมาจนถึงรอบ4ทีมสุดท้าย อีกไม่กี่อึดใจก็จะได้รู้ว่า ทีมฟุตบอลจากประเทศใดกัน ที่จะเข้าป้ายเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ แฟนบอลหลายๆ คนก็ลุ้นทีมที่เชียร์กันตัวโก่งเต็มที่
ไม่น่าห่วงสำหรับแฟนฟุตบอลตัวจริงที่เชียร์โดยไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่บรรดาแฟนเทียมหรือ ผีพนันออกจะน่าเป็นห่วง เพราะกว่าจะผ่านมาถึงรอบนี้ได้ หลายๆ คนต้องสูญเสียเงินไปแล้วเป็นจำนวนมาก และยิ่งมาถึงในช่วงตัดสินแชมป์ ยิ่งน่าเป็นห่วงตรงที่ ผีพนันเหล่านี้จะเพิ่มวงเงินที่แทงมากขึ้น เพื่อหวังเอากำไรจากเจ้ามือให้เต็มที่หรือเป็นการเอาทุนที่เสียไปกลับคืน
โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานหรือผู้ใช้แรงงานที่เข้ามาสู่วงจรการเล่นการพนันบอลในช่วงฟุตบอลโลกนี้ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจพฤติกรรมและผลกระทบจากการเล่นพนันฟุตบอลโลก 2010 ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานจำนวน 1,000 คน ระหว่างวันที่ 24-27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ของมูลนิธิเพื่อนหญิง ที่ได้ร่วมกับเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ที่พบว่า กลุ่มแรงงานส่วนใหญ่ใช้เงินในการเล่นพนันตั้งแต่หลักพันบาทขึ้นไป แต่ที่น่าสนใจคือมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานจำนวนหนึ่ง ที่ใช้เงินในการเล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้ถึงสองหมื่นบาท
นายสุชาติ ตระกูลหูทิพย์ หัวหน้าฝ่ายแรงงานหญิง มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวแสดงความเห็นในเรื่องของแรงงานที่เข้าเล่นพนันบอลในช่วงฟุตบอลโลกว่า ความจริงแล้วการเล่นพนันในหมู่แรงงานนั้น มีมาอยู่แล้วไม่ใช่เพิ่งมีแค่ในช่วงฟุตบอลโลกอย่างเดียว แต่เมื่อเทศกาลฟุตบอลโลกมาถึง เป็นเรื่องธรรมดาที่แรงงานไทยจะสนใจเล่นเพิ่มมากยิ่งขึ้น
สาเหตุหลักๆ จากการเก็บข้อมูลที่รวบรวมได้นั้น พบว่า สาเหตุการเล่นพนันของกลุ่มแรงงานมีหลายประการมาก โดยอันดับแรก ที่พบคือ ถ้าหากได้เล่นพนันแล้วจะทำให้การเชียร์บอลสนุกขึ้น หรือ สร้างแรงจูงใจในการดูบอลมากขึ้น เพราะจะมีเรื่องของความตื่นเต้น และการลุ้นทีมที่พนันไปด้วยในตัว
สาเหตุที่สองคือ เรื่องของการอยากได้เงิน เนื่องจากการพนันเป็นการหาเงินที่ค่อนข้างง่ายพอบอลจบก็สามารถรู้เลยว่า จะได้หรือเสียเงินที่แต่ละคนได้พนันไป เสมือนเป็นการคิดว่าเป็นการหาเงินทางลัดที่ได้เร็วกว่าไม่ต้องไปรอเงินเดือนที่จะได้ในแต่ละเดือน
ส่วนสาเหตุสุดท้ายนี่ค่อนข้างสำคัญมาก เนื่องจากการสำรวจพบว่า โต๊ะพนันบอลหาได้ง่ายมากโดยเฉพาะตามแหล่งโรงงาน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มแรงงานถูกชักจูงให้เข้าเล่นพนันบอลได้ง่ายขึ้น
“เหมือนว่าโต๊ะบอลทำรูปแบบการพนันให้ครบวงจรมากขึ้น สมมุติว่าถ้ามีโรงงาน อยู่ 100 โรงงาน ทั้ง 100โรงงานนั้น ก็จะมีโต๊ะบอลที่ตั้งอยู่รอบๆ นอกจากนั้น ยังมีเด็กเดินโพย ที่เข้าไปเดินโพยให้กับกลุ่มผู้ใช้แรงงานถึงในโรงงานอีกด้วย และจากที่ผมได้ฟังมานั้น แรงงานบางคนบอกผมเลยว่า โต๊ะพนันบอลหาง่ายกว่าร้านขายเหล้าเสียอีก” นายสุชาติกล่าว
หัวหน้าฝ่ายแรงงานหญิง มูลนิธิเพื่อนหญิง ยังกล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่กลุ่มแรงงานได้เล่นพนันไปแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีผลกระทบตามมา เพราะเวลาเสียพนัน ก็ต้องเป็นหนี้ และเวลาไม่มีเงินไปจ่ายหนี้ก็ต้องเข้าไปกู้ยืมเงินจากที่อื่นเพื่อนำมาใช้หนี้พนัน โดยตรงนี้จากการเก็บข้อมูลที่พบว่าเงินเล่นพนันที่กลุ่มผู้ใช้แรงงานได้นำมาเล่นนั้น เริ่มตั้งแต่ หลักพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะพอสมควร หากเงินตรงนี้ต้องมาเสียกับการพนันบอลแล้ว ย่อมมีผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
นั่นอาจนำความเดือดร้อนไปสู่ครอบครัว เพราะเวลาเสียพนันแล้ว หากไม่มีเงิน ก็ต้องไปกู้เงินจากที่อื่น ตรงนี้ก็อาจทำให้ คนเล่นที่รู้สึกหงุดหงิด ฉุนเฉียวเพราะเสียเงินแล้ว ยังทำให้มีปัญหากับคนในครอบครัว เช่น การทะเลาะ หรืออาจรวมไปถึงการทำร้ายคนในครอบครัว ซึ่งก็ส่งผลให้จิตใจของคนในครอบครัวแย่ลงไปอีก
นอกจากการพนันบอลจะส่งผลต่อครอบครัวแล้วยังส่งผลไปถึงการทำงาน เพราะฟุตบอลโลกบางคู่นั้นเตะกันดึก บางคนนั่งลุ้นจนกว่าจะจบ ซึ่งตรงนี้ส่งผลในเรื่องการทำงาน โดยเห็นได้จากบางคน มาทำงานก็ทำได้ไม่เต็มที่มีอาการง่วง ซึม และถ้ายิ่งฟุตบอลในคู่นั้นแพ้พนันอีกก็จะส่งผลต่อการทำงานได้อย่างชัดเจน และบางคนถึงกับยอมขาดงานเพื่อไปหาเงินมาใช้หนี้พนันที่ตัวเองเล่นเสียไป หรือบางคนก็ไม่อยากมาทำงานเนื่องจากเล่นพนันกับเพื่อนไว้ และถ้าหากเข้ามาทำงานอาจถูกทวงหนี้เป็นต้น
นายสุชาติยังกล่าวต่ออีกว่า ในเทศกาลบอลโลกนี้ นอกจากกลุ่มแรงงานจะมีการเล่นพนันแล้ว ยังมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์เพิ่มขึ้น เพราะการไปเชียร์แต่ะครั้งนั้น จะเป็นการไปเชียร์ตามร้านอาหาร หรือสถานที่จัดไว้ให้ดูบอลต่างๆ ก็ทำให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์เข้าไปไม่ว่าจะเป็น เหล้า เบียร์ ต่างๆ
“ตรงจุดนี้ก็ถือว่าน่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะการดื่มเหล้าหรือเบียร์เข้าไปแล้วย่อมทำให้สติสัมปชัญญะลดลง และถ้าหากทีมที่พนันไปแพ้อีก ก็อาจจะมีเรื่องของการควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จนนำไปสู่การทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายได้” นายสุชาติกล่าว
หัวหน้าฝ่ายแรงงานหญิง มูลนิธิเพื่อนหญิง ยังกล่าวถึงแนวทางในการป้องกันการเล่นพนันในกลุ่มผู้ใช้แรงงานว่า ทางเราก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด โดยในเรื่องของการปราบปรามนั้น ทางเราก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รับทราบข้อมูลแล้วสามารถเข้ามาตรวจสอบหรือจัดการในเรื่องนี้ทันที
“นอกจากการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ แล้ว เราก็ร่วมมือกับเครือข่ายของเราในการลงพื้นที่ เพื่อเข้าไปรณรงค์ ให้ความรู้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังจากเล่นการพนัน แก่โรงงานต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มนักพนันในโรงงานอีกทางหนึ่งด้วย”หัวหน้าฝ่ายแรงงานหญิง มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวทิ้งท้าย
จะเห็นว่าการป้องกันการเล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ มีหลายหน่วยงานออกมาช่วยกันอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามครอบครัวก็ถือว่ามีส่วนสำคัญในการที่จะช่วยป้องกันการเล่นพนันบอลของสมาชิกในภายในบ้านได้โดยการสอดส่องดูแล และให้ความรู้ รวมถึงห้ามปรามเป็นต้น
อย่าให้ฟุตบอลโลกที่ป็นเทศกาลกีฬาที่หลายคนรอคอย จบไปพร้อมกับการสูญเสียของใครหลายๆคน
ที่มา: คมสัน ไชยองค์การ Team content www.thaihealth.or.th
Update: 06-07-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ