แม่สูบบุหรี่ลูกอาจปากแหว่ง
เลขาธิการมูลนิธิฯ เตือนหญิงไทยวัยมีบุตร ให้เลิกสูบบุหรี่ เนื่องจากเป็นสาเหตุของเด็กที่เกิดมาพิการแต่กำเนิดโดยมีริมฝีปากและเพดานปากแหว่ง
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า วัยรุ่นหญิงอายุระหว่าง 15 ถึง 24 ปี หกหมื่นคนที่สูบบุหรี่ให้เลิกสูบบุหรี่ เพราะหากยิ่งสูบนานจะยิ่งเลิกยาก ซึ่งรายงานล่าสุด ยืนยันว่าการสูบบุหรี่ของแม่ระหว่างตั้งครรภ์เป็นสาเหตุของเด็กที่เกิดมาพิการแต่กำเนิดโดยมีริมฝีปากและเพดานปากแหว่ง
ทั้งนี้รายงานการวิจัยโดย ดร.ประเทือง หงสรานากร อาจารย์วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าร้อยละ 1.4 ของหญิงไทยที่ตั้งครรภ์ยังคงสูบบุหรี่เมื่อ พ.ศ.2552 ซึ่งหากคำนวณจากการที่มีหญิงไทยตั้งครรภ์จนคลอดปีละ 700,000 คน จะมีหญิงไทยถึง 9,800 คนที่สูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์ในแต่ละปี ซึ่งจะมีความเสี่ยงที่จะทำให้ทารกที่คลอดออกมาพิการด้วยริมฝีปากและเพดานปากแหว่ง นอกเหนือจากโอกาสแท้งลูกที่เพิ่มขึ้นจากการที่ทารกมีโครโมโซมผิดปกติ โรคแทรกซ้อนระหว่างคลอด เช่น ตกเลือดจากรกลอกตัวกะทันหัน เด็กคลอดก่อนกำหนด ทารกตายระหว่างคลอด
“หญิงไทยทุกคนในวัยมีบุตรที่ยังสูบบุหรี่ จึงควรเลิกสูบบุหรี่ให้ได้โดยเฉพาะก่อนการตั้งครรภ์ เพื่อไม่ให้ทารกที่เกิดมาแล้วพิการ ส่วนวัยรุ่นหญิงที่ไม่สูบบุหรี่ก็ไม่ควรริเริ่มหรือลองสูบ เพราะติดง่ายและเลิกสูบยากมาก” อาจารย์วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ทิ้งท้าย
ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่