แพ้ครีมบำรุงผิว โรคผิวหนังที่ป้องกันได้

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน


แพ้ครีมบำรุงผิว โรคผิวหนังที่ป้องกันได้ thaihealth


แฟ้มภาพ


อาการแพ้ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกาย อาจเกิดขึ้นได้ถ้าใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือมีสารปนเปื้อน เช่น รู้สึกผิวแห้งตึง เป็นขุ่ย ส่วนผู้ที่มีผิวมัน ก็อาจจะเกิดสิวอุดตัน หรือผิวหน้าอักเสบได้ง่าย


นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีและโฆษกกรมการแพทย์ สธ. ให้ข้อมูลว่า เซลล์ผิวหนังมีต้นกำเนิดจากชั้นล่างสุดของหนังกำพร้า เซลล์ผิวหนังมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนทับซ้อนตัวกัน และค่อยๆ เลื่อนตัวขึ้นไป จนกระทั่งเซลล์หมดอายุและค่อยๆ หลุดลอกออกไปเป็นขี้ไคล ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 6-8 สัปดาห์ ระหว่างที่เซลล์ผิวหนังเลื่อนตัวขึ้นไปข้างบน เซลล์ผิวหนังมีการสร้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ หล่อเลี้ยงผิวหนังให้ชุ่มชื้น ความชุ่มชื้นในผิวหนังจะช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วค่อยๆ ลอกหลุดไป ขณะเดียวกันเซลล์ผิวหนังจะสร้างสารไขมันตามธรรมชาติ และปลดปล่อยออกไปเคลือบชั้นนอกสุดของผิวหนังและรอบๆ เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว


ด้านพญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ครีมบำรุงผิว เป็นครีมที่ใช้ทาผิวกาย เพื่อเพิ่มเติมและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ทำให้เกราะป้องกันของผิวหนังแข็งแรงและช่วยเก็บกักความชื้นไว้ในผิวหนัง ครีมเติมความชุ่มชื้น ประกอบด้วย สารประกอบหลัก 3 กลุ่ม คือ 1.สารเคลือบผิว ส่วนมากเป็นสารไขมันที่จะหน้าที่เคลือบผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง 2.สารดูดความชื้น จะดูดซับความชื้นจากอากาศและใต้ผิวหนัง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง 3.สารเติมเต็ม จะเคลือบปิดช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวหนัง ช่วยให้เกราะผิวหนังแข็งแรงและรู้สึกเรียบลื่น


สารประกอบหลักทั้ง 3 กลุ่มมีอยู่ในครีมบำรุงผิวทุกชนิด แต่มีมากบ้างน้อยบ้าง แตกต่างกันตามข้อบ่งใช้ของครีมนั้นๆ ดังนั้น ควรเลือกครีมบำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน จำเป็นต้องทาครีมบำรุง แต่ต้องเลือกให้เหมาะสม เพราะผิวมันมักเป็นสิวและโรคผื่นรังแคได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผิวหน้าอักเสบ ยาทารักษาสิวทุกชนิด ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน โดยเฉพาะหลังจากล้างหน้า จะรู้สึกผิวแห้งตึงเป็นขุย ครีมสำหรับผิวมันไม่ควรมีสารเคลือบผิว เพราะจะทำให้ผิวหนังมันมากขึ้น และอาจอุดตันเป็นสิวง่าย999arch

Shares:
QR Code :
QR Code