ที่มา :  เว็บไซต์ไทยรัฐ

แฟ้มภาพ

แพทย์เตือนระวังโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์บีระบาดในไทย พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย เผยองค์การอนามัยประมาณการว่าจะมีป่วยเพิ่มขึ้นทั่วโลก ด้าน สธ.แนะเร่งฉีดวัคซีนป้องกันลดความรุนแรงของโรค ขณะที่ สปสช.ทุ่มงบซื้อวัคซีน 4 ล้านโดสฉีดป้องกันให้กลุ่มเสี่ยงฟรี

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บีส่อเค้ากลับมาระบาดในไทย เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล มีการแถลงข่าว “มหันตภัยไข้หวัดใหญ่ คร่าชีวิตได้หากไม่ป้องกัน” นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมศึกษาไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่า จากการคาดการณ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าในปี 2562 สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่น่าจะรุนแรงขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ไว้ล่วงหน้า สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม คือ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ขวบ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปอด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย มะเร็ง ธาลัสซีเมีย ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี และโรคอ้วน แต่ที่ผ่านมากลับพบว่ากลุ่มเสี่ยงเหล่านี้มารับวัคซีนเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น จึงอยากให้มารับวัคซีนให้ครบโดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ ซึ่ง WHO ก็ยืนยันแล้วว่า การฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ไม่ส่งผลกระทบต่อเด็ก

ด้าน นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ 1 ม.ค.-18 มี.ค. พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 99,087 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 151.45 รายต่อแสนคนของประชากร เสียชีวิต 6 ราย โดยในปีนี้สายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ที่จะระบาดในไทยและพบมากน่าจะเป็นสายพันธุ์บี ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 9 เท่า โดยสายพันธุ์บี นั้น แบ่งเป็นบี วิกตอเรีย และบี ยามากาตะ สำหรับ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แบบ 3 สายพันธุ์ ก็มีการบรรจุสายพันธุ์บีรวมด้วย ส่วนในวัคซีน 4 สายพันธุ์ ที่ต้องซื้อหาเองนั้น มีประสิทธิภาพป้องกันได้หรืออาจจะดีกว่าเล็กน้อย สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ร้อยละ 60-70 นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วหากป่วยจะช่วยลดระยะเวลาการป่วยจาก 7 วัน เหลือเพียง 1-2 วัน ทั้งลดอัตราการนอนโรงพยาบาลด้วย การรับวัคซีนป้องกัน จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด ซึ่งปีนี้ สปสช.จะมีการจัดวัคซีนเพิ่มจาก 3.5 ล้านโดส เป็น 4 ล้านโดส

“การตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่เพื่อยืนยันสายพันธุ์ ไม่จำเป็นถ้ามีการจ่ายยาชนิดเดียวกันอยู่แล้ว ขอเพียงแค่มีกลุ่มอาการชัดเจนบ่งชี้ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง 38 องศาขึ้นไป มีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ปวดศีรษะ หนาวสั่น เจ็บคอ คัดจมูก อ่อนเพลีย อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นอกจากเป็นการป้องกัน ยังลดอัตราการเสียชีวิต และการนอนโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ลดอาการปอดบวมอักเสบ แต่หากพบการป่วยในเด็กเล็ก มาตรการที่ดีที่สุดคือหยุดเรียนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ” นพ.ทวีกล่าว