แพทย์เตือน….ร่ำสุราคลายหนาวอาจถึงตายได้

เหตุทำให้ง่วง-งง-ซึม จนถึงหมดสติ

          น.พ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประจำปี 2550 พบว่าประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป 51.2 ล้านคน ดื่มสุรา 14.9 ล้านคน หรือ 29.3% ผู้ชายดื่มมากกว่าผู้หญิง 6 เท่า ที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มเยาวชนมีอัตราการดื่มสุราสูงถึง 21.9% หรือ 10.5 ล้านคน แต่กลุ่มวัยทำงานมีอัตราการดื่มมากกว่ากลุ่มอื่น 34.4% หรือ 33.5 ล้านคน

          ทั้งนี้ ในช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศเย็น แต่ประชาชนมีความเชื่อเรื่องการคลายหนาวด้วยการดื่มสุราเพราะเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่น คลายหนาวได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและอันตราย และใช้ไม่ได้ผลโดยเฉพาะผู้อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น หรือนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวแล้วดื่มสุราคลายหนาว อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

          ทั้งนี้ ความเชื่อเรื่องการดื่มสุราช่วยคลายหนาวได้ เพราะหลังดื่มแอลกอฮอล์จะเข้าสู่กระแสเลือด ฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดฝอยทั่วร่างกายขยายตัว เกิดความรู้สึกร้อนวูบวาบ หน้าแดง ทำให้ผู้ดื่มถอดเสื้อกันหนาวออกหรือใส่เพียงเสื้อผ้าบางๆ แทน โดยไม่รู้ว่าความร้อนที่เกิดขึ้นหลังดื่มเหล้า ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนออกไปเร็วขึ้น และหากดื่มมากๆ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะกดที่ประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วง งง ซึม อาจทำให้หมดสติ ซึ่งหากอยู่ในที่ที่มีอากาศหนาวเย็นยิ่งอันตรายเพราะความเย็นจะทำให้เลือดในร่างกายมีความหนืดขึ้น การไหลเวียนยากลำบาก อวัยวะต่างๆ ขาดออกซิเจน หัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ง่ายขึ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

update 20-11-51