แพทย์เตือน “คนไทยเครียด” เสี่ยงโรคผิวหนัง
แนะผู้ปกครองแก้ปัญหาพื้นฐานก่อนฝันร้าย
ในสถานการณ์ที่คนไทยกำลังมีความเครียดสูง ไม่ได้เพียงแต่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกและพฤติกรรมเท่านั้น แต่อาจกระตุ้นให้โรคผิวหนังหลายชนิดกำเริบได้
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาผิวหนัง เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทำให้คนไทยมีความเครียดสูง จึงมีแนวโน้มจะพบการกำเริบของโรคผิวหนังหลายชนิด เพราะจิตใจมีความสัมพันธ์กับผิวหนังชัดเจน โดยแบ่งลักษณะความสัมพันธ์ได้เป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 เป็นโรคผิวหนังโดยตัวเองอยู่แล้ว แต่ปัจจัยทางจิตใจกระตุ้นให้โรคผิวหนังกำเริบ เช่น สิว ผมร่วงเป็นหย่อม เริม เหงื่อออกมาก มีกลิ่นตัว คัน สะเก็ดเงิน ลมพิษ กลุ่มที่ 2 โรคผิวหนังเป็นตัวทำให้จิตป่วย โรคผิวหนังที่ลักษณะน่ารังเกียจ เช่น สิวที่รุนแรง สะเก็ดเงิน ด่างขาว ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอับอายเกิดความกังวลและความเครียด กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มโรคทางจิตใจที่มีอาการทางผิวหนัง เช่น ดึงผมเล่นจนร่วง และโรคไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาของตนเอง หรือบีดีดี (body dysmorphic disorder, bdd) ที่เรียกง่ายๆ ว่า “โรคฉันไม่สวย”
นพ.ประวิตรกล่าวว่า กลุ่มโรคผิวหนังที่สัมพันธ์กับจิตใจที่พบบ่อยขณะนี้ เช่น สะเก็ดเงิน สิว และบีดีดี ในกรณีของสะเก็ดเงิน ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุไม่มากคือ 18 – 45 ปี ทำให้มีปัญหาในการทำงานและการเข้าสังคม ผู้ป่วยสะเก็ดเงินขั้นรุนแรงร้อยละ 5.5 เคยคิดฆ่าตัวตาย ในโรคสิวนั้นความรุนแรงไม่ได้ผันแปรโดยตรงกับความซึมเศร้า สิวเป็นมากในวัยรุ่นที่เป็นช่วงที่กังวลต่อรูปลักษณ์ของตนเองมากอยู่แล้ว ผู้ปกครองจึงต้องเข้าใจว่าสิวเป็นโรคที่แท้จริง ไม่ได้เป็นการรักสวยรักหล่อพร่ำเพรื่อ ผู้ป่วยสิวต้องการการรักษาอย่างถูกต้อง
ดังนั้น จึงขอเตือนว่าทั้งผู้ป่วย พ่อแม่ ผู้ปกครอง และแพทย์เองจำเป็นต้องรู้จักโรคเหล่านี้ บางโรค เช่น บีดีดี ต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเสริมความงามในผู้ป่วยโรคนี้ เพราะผลลัพธ์อาจเป็นฝันร้ายของทั้งผู้ป่วย เนื่องจากการเสริมความงามไม่ได้แก้ปัญหาพื้นฐาน คือเรื่องของจิตใจ บางโรค เช่น สะเก็ดเงินและสิว ต้องให้การรักษาเต็มที่ เพราะช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้น แพทย์ผิวหนังอาจปรึกษาจิตแพทย์ร่วมในการรักษาด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update : 09-09-51