แพทย์เตือน “กินเค็มจัด” เสี่ยงความดันโลหิตสูง

เผยคนไทยเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 31 คน

 แพทย์เตือน “กินเค็มจัด” เสี่ยงความดันโลหิตสูง

          นพ.เสรี หงษ์หยก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในงานรณรงค์วันหัวใจโลกปี 2551 ซึ่งมีประเด็นการรณรงค์ว่า “เสี่ยงโรคแค่ไหน หัวใจคุณ? (do you know your risk?)” โดยเน้นการให้ประชาชนรับรู้เรื่องปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดของตนเอง และวิธีการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพของหัวใจที่แข็งแรงว่า จากรายงานสถานการณ์ความรุนแรงของโรคหัวใจและหลอดเลือดทั่วโลก พบว่าแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณ 17.5 ล้านคน หรือเสียชีวิตมากว่า 1 คนในทุก 2 วินาที และยังพบว่าร้อยละ 80 ของการตายอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจต่ำ รายได้น้อยถึงรายได้ปานกลาง

 

          “สำหรับประเทศไทย มีคนไทยตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยเฉลี่ย 31 คนต่อวัน และพบว่าแนวโน้มผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดจะมีอายุน้อยลง การป้องกันทำได้โดยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ เลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ กินผักผลไม้ที่หลากหลาย รสไม่หวานจัด ในปริมาณมากเพียงพอต่อการป้องกันโรค คือ กินผักผลไม้ประมาณ 5 ทัพพีต่อวัน และควบคุมระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ” นพ.เสรีกล่าวว่า ปีนี้องค์การอนามัยโลก ร่วมกับสมาพันธ์หัวใจโลก และองค์กรเครือข่ายได้ให้ความสำคัญเรื่องภาวะความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด เน้นให้ประชาชนรู้จักค่าความดันโลหิตของตนเองก่อนเป็นลำดับแรกว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ โดยให้ไปตรวจวัดความดันโลหิตจากบุคลากรทางด้านสาธารณสุข และควบคุมความดันโลหิตของตนเองให้ปกติอยู่เสมอ

 

          นพ.เสรีกล่าวว่า ความดันโลหิตมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการกินอาหารเค็ม ถ้ากินเค็มมากจะมีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูง ดังนั้น ต้องหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม นอกจากนี้ ทุกคนสามารถคุมระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เครียด พักผ่อนเพียงพอ และกินผักผลไม้เพิ่มขึ้น ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิตให้เหมาะสม

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

update 29-09-51

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code