แพทย์เตือนหน้าฝนระวังเห็ดพิษ กินแล้วอาจถึงตาย
แพทย์เตือนหน้าฝนระวังเห็ดพิษ กินแล้วอาจถึงตาย
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 – 29 เมษายน 2555 พบผู้ป่วยจากการกินเห็ด 240 ราย จาก 43 จังหวัด ยังไม่มีผู้เสียชีวิต จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จ.สระบุรี อัตราป่วย 4.08 ต่อประชากรแสนคน จ.ยโสธร 3.34 ต่อประชากรแสนคน และ จ.เชียงใหม่ 2.88 ต่อประชากรแสนคน ส่วนข้อมูลในปี 2554 พบผู้ป่วย 1,723 ราย จาก 61 จังหวัด เสียชีวิต 6 ราย และจากข้อมูลยังพบว่าเฉพาะเดือนพฤษภาคม มีผู้ป่วยถึง 404 ราย และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 5 ราย
นพ.พรเทพกล่าวว่า เห็ดที่มักนำมาบริโภคหรือจำหน่าย เป็นเห็ดไม่มีพิษ เช่น เห็ดโคน เห็ดจูน เห็ดเผาะ เห็ดหูหนู เห็ดตับเต่าบางชนิด และเห็ดลม ส่วนเห็ดพิษ เช่น เห็ดตับเต่าบางชนิด เห็ดระโงกหิน เห็ดไข่ห่านตีนต่ำ เห็ดสมองวัว เห็ดน้ำหมึก เห็ดหิ่งห้อย เห็ดเกล็ดดาว เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดย 1.ต้องมั่นใจจริงๆ ว่ารู้จักเห็ดชนิดนั้น 2.เวลาเก็บเห็ดต้องเก็บให้ครบทุกส่วน 3.เก็บเห็ดที่มีลักษณะรูปร่างสมบูรณ์เท่านั้น 4.เวลาเก็บให้แยกชนิดเป็นชั้น โดยนำกระดาษรองในตะกร้า 5.อย่าเก็บเห็ดภายหลังพายุฝนใหม่ๆ เพราะมีเห็ดบางชนิดที่สีบนหมวกอาจถูกชะล้างให้จางลงไป 6.เก็บเห็ดมาแล้วควรปรุงอาหารทันที ไม่ควรเก็บไว้นาน 7.ห้ามกินเห็ดดิบ โดยเด็ดขาด 8.เห็ดที่ไม่เคยกินควรกินเพียงเล็กน้อยในครั้งแรก 9.ไม่ควรเก็บเห็ดที่ขึ้นใกล้โรงงานสารเคมี
“หากกินเห็ดพิษจะแสดงอาการภายใน 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กิน เช่น 1.เห็ดลูกไก่ มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนเมื่อกินร่วมกับแอลกอฮอล์ 2.เห็ดหมวกจีน มีอาการเหงื่อแตก คลื่นไส้ และปวดเกร็งในท้อง 3.เห็ดเกร็ดขาว มีอาการประสาทหลอน เพ้อ คลุ้มคลั่ง ซึม ชัก และหมดสติ 4.เห็ดขี้ควายและเห็ดโอสถลวงจิต มีอาการประสาทหลอน เพ้อ คลุ้มคลั่ง แต่ไม่มีอาการซึม 5.เห็ดไข่ตายซาก เห็ดระโงกหิน เห็ดไข่เป็ด และเห็ดไข่ห่านตีนต่ำ จะมีอาการอ่อนแรง ปวดศีรษะและคลื่นไส้ เกิดขึ้นในเวลาเกิน 6 ชั่วโมง อาการมักทุเลา 1-2 วันต่อมา ต่อมามีตับอักเสบ จนถึงตับอักเสบ จนถึงตับวายได้ สำหรับคำแนะนำ หากพบผู้ได้รับพิษจากการกินเห็ด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด ตาลาย ใจสั่น อ่อนเพลีย ปวดท้อง เวียนศีรษะ เบื้องต้นต้องทำให้อาเจียนโดยการล้วงคอหรือกรอกไข่ขาว แล้วรีบไปพบแพทย์ทันที” นพ.พรเทพกล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน