แพทย์เตือนสมุนไพรเสริมความงาม
ชี้หลายขนานมีการเจือปนสารอันตราย
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (nih) เปิดเผยว่า ปัจจุบันในไทยและต่างประเทศมีกระแสความนิยมใช้การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพรในการรักษาโรคมากขึ้น โดยพบ่วาในเยอรมนีออสเตรีย และสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ใช้การแพทย์ทางเลือกเพื่อรักษาผู้ป่วยส่วนใหญ่คือแพทย์ ร้อยละ 50 ของการใช้สมุนไพร ในเยอรมนีสั่งจ่ายโดยแพทย์ ในด้านโรคผิวหนังมีการนำสมุนไพรและการแพทย์ทางเลือกมาใช้มากขึ้นเช่น เช่นใช้สารสกัดจากชาป้องกันผลเสียของแสงแดดต่อผิวหนังภูมิแพ้ใช้เสลดพังพอนรักษาโรคงูสวัด ใช้ผักบุ้งทะเล ลดพิษของแมงกะพรุนไฟ ขมิ้นชันรักษาฝี แผลพุพอง เพราะมีสารสีเหลืองชื่อ เคอร์คิวมิน (curumin) มีฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย องค์การเภสัชกรรมยังใช้ขมิ้นชันมาผลิตเป็นครีมบำรุงผิวหน้า นอกจากนั้นยังมีการใช้สารสกัดจากเปลืองมังคุด ซึ่งมีสารแทนนิน (tannin) รักษาสิว ใช้แก่นมะหาดรักษาฝ้า ส่วนการแพทย์ทางเลือกที่นำมาใช้รักษาโรคผิวหนัง เช่น ใช้การสะกดจิตรักษาหูด, สะเก็ดเงิน, การฝังเข็มรักษา
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร เตือนว่า ผู้ที่ใช้สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือกส่วนใหญ่เข้าใจว่าแนวทางเหล่านี้ปลอดภัย เพราะเป็นของที่มาจากธรรมชาติแท้จริงแล้วการแพทย์ทางเลือกและสมุนไพรก็มีอันตรายได้เช่นกัน เช่น การกินสมุนไพรจีนรักษาสะเก็ดเงินอาจทำให้ตับวายจนเสียชีวิต, ใบขี้เหล็ก ทำให้ตับอักเสบ, ผลมะเกลือทำให้ตาบอด มีผู้ป่วยมะเร็งไฝ่ดำหลายรายเสียเวลารักษาด้วยการแพทย์ทางเลือกจนเสียชีวิต ทั้งที่หากรักษาด้วยการแพทย์ทางหลักตั้งแต่ระยะเริ่มต้นอาจหายขาดได้ ที่น่าเป็นห่วงคือ พบว่ายาสมุนไพรหลายขนานมีการเจือปนสารอันตราย เช่น สเตรียรอยด์ และสารหนูลงไป โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมก็ต้องระวังการใช้ยาสมุนไพรเช่นกัน สมุนไพรที่มีผลเสียต่อคนท้องและกำลังให้นมบุตร เช่น กระเทียมในรูปยากิน เม็ดเทียนสัตตบุษย์ และสมุนไพรรักษาหูด เป็นต้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
update: 30-07-51